ZTE Blade A34 มือถือรุ่นประหยัดน้องใหม่จาก ZTE ที่เปิดตัวและมีวางจำหน่ายในไทยไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ พร้อมกันกับ ZTE Blade A54 และ ZTE Blade V50 Design
โดยรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับสเปกและฟีเจอร์สุดครบครัน ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว ชิปเซ็ต Unisoc Octa-core 1.6GHz กล้องหลัง 5MP กล้องหน้า 2MP แบตเตอรี่ 5000mAh ดีไซน์สวยทันสมัย ในราคาสุดคุ้มสบายกระเป๋าเพียงแค่ 2,299 บาทเท่านั้น
ถ้าอยากรู้ว่า ZTE Blade A34 จะมีทีเด็ดอะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันในรีวิวนี้ได้เลยครับ
แกะกล่อง
ZTE Blade A34 มาในกล่องสีส้มขาวพร้อมประทับชื่อรุ่นขนาดใหญ่ไว้บนตัวกล่องอย่างชัดเจน โดยเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับตัวเครื่องพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย หัวชาร์จ / สายชาร์จ USB-C / เคสใส / อุปกรณ์ถอดถาดซิม / คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน
ดีไซน์
ZTE Blade A34 นั้นมาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูสวยงามทันสมัย ซึ่งฝาหลังจะมีพื้นผิวแบบลายเส้นชวนสะดุดตาและช่วยเพิ่มสไตล์ให้กับตัวโทรศัพท์ อีกทั้งไม่เกิดรอยนิ้วมือบนฝาหลังได้ง่าย โดยจะมีให้เลือก 2 สี คือ สีเทา (Gray) ที่เรากำลังรีวิวอยู่นี้ ส่วนอีกสีจะเป็นสีเขียว (Green)
บริเวณด้านหลังของ ZTE Blade A34 จะมีกล้อง 5MP พร้อมไฟแฟลช LED จัดวางในวงแหวนบนพื้นที่กรอบรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่
สำหรับหน้าจอของ ZTE Blade A34 เป็นจอ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1612×720 (HD+) แสดงผลได้อย่างสดใสคมชัด
บริเวณด้านบนหน้าจอของ ZTE Blade A34 จะมีรอยบากทรงหยดน้ำสำหรับกล้องหน้า 2MP พร้อมด้วยลำโพงสำหรับสนทนาที่อยู่แนบชิดติดขอบจอ
ตัวบอดี้ของ ZTE Blade A34 มีขอบเครื่องแบบเหลี่ยมพิมพ์นิยม จึงถือจับกระชับเข้ารับกับสรีระของฝ่ามือได้ดี และใช้งานได้สะดวกสบายด้วยมือข้างเดียวไม่ว่าแนวตั้งหรือแนวนอน โดยบริเวณขอบเครื่องด้านขวาจะมีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง
ขอบเครื่องด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ไมโครโฟน พอร์ต USB-C และลำโพง
ขอบเครื่องด้านบนจะเรียบ ๆ ไม่มีอะไร
ขอบเครื่องด้านซ้ายจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot (ซิม 1 + ซิม 2 + microSD)
ส่องกล้อง
เรื่องกล้องนั้นอาจจะไม่ใช่อะไรที่เด่นมากนักของ ZTE Blade A34 ด้วยกล้องหลัง 5MP และกล้องหน้า 2MP พร้อมฟีเจอร์ถ่ายภาพแบบมาตรฐานทั่วไป ซึ่งโดยรวม ๆ แล้วก็ถือว่าพอใช้ได้อยู่ครับสำหรับมือถือระดับราคานี้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ ZTE Blade A34
ประสิทธิภาพและการใช้งาน
ZTE Blade A34 รันด้วยระบบปฏิบัติการ MyOS 13 บน Android 13 หน้าตา UI หรือพวกเมนูตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ก็เหมือนกันกับมือถือ Android ทั่วไปที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีครับ
ด้านขุมพลังภายในของรุ่นนี้มากับชิปเซ็ต Unisoc SC9863A แบบ Octa-core ความเร็ว 1.6GHz ที่ใช้งานได้ลื่นไหล พร้อมหน่วยความจำ RAM 4GB + ฟีเจอร์ RAM เสมือน ร่วมกับพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 64GB
โดยฟีเจอร์ RAM เสมือน นั้นจะสามารถดึงพื้นที่เก็บข้อมูลมาเพิ่มเป็น RAM ได้อีกสูงสุด 4GB รวมเป็น 8GB นั่นเอง
ด้านความบันเทิง ZTE Blade A34 ก็นับว่าทำได้ค่อนข้างดีและสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เต็มอรรถรส ไม่ว่าจะเปิดแอปฯ พร้อมกัน ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม
จากการลองทดสอบเล่นเกมต่าง ๆ ก็ถือว่าพอใช้ได้ ความละเอียดกราฟิกอาจปรับได้แค่ระดับต้น ๆ หรือปานกลาง แต่โดยรวมแล้วก็ยังสามารถเล่นได้ลื่นไหลดีอยู่ครับ
และถึงแม้จะเป็นคนที่ต้องใช้งานมือถือหนักแค่ไหนก็สบายใจได้ เพราะ ZTE Blade A34 ให้แบตเตอรี่มาแบบจุใจ 5000mAh ซึ่งก็นับว่าเพียงพอที่จะใช้งานแบบปกติทั่วไปได้ยาว ๆ ตลอดทั้งวันอยู่แล้ว
ข้อมูลสเปก ZTE Blade A34
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1612×720 (HD+)
- ชิปเซ็ต Unisoc SC9863A, Octa-core 1.6GHz
- RAM 4GB + RAM เสมือน สูงสุด 4GB
- Storage 64GB
- รองรับ microSD
- กล้องหลัง 5MP
- กล้องหน้า 2MP
- ระบบปฏิบัติการ MyOS 13 บน Android 13
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- การเชื่อมต่อ 4G, Wi-Fi b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 5.0, USB-C
- สี เทา (Gray) / เขียว (Green)
สรุป
จากภาพรวมก็พอจะสรุปได้ว่า ZTE Blade A34 นั้นเหมาะสำหรับคนกำลังมองหามือถือราคาประหยัดในงบไม่เกิน 2,500 บาท ซึ่งมากับสเปกที่ค่อนข้างดีและมีฟีเจอร์ครบครันคุ้มราคาเอามาก ๆ ครับ โดยเมื่อเทียบกันกับมือถือระดับราคานี้ของแบรนด์อื่น ๆ ก็นับว่า ZTE Blade A34 ทำได้ดีไม่ได้เป็นรองใคร
ทั้งนี้ ZTE Blade A34 พร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้ว ในราคาเพียงแค่ 2,299 บาทเท่านั้น สามารถหาซื้อได้ผ่านทางตัวแทนจำหน่าย ZTE ทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ที่ Shopee: ZTE Official Store หรือ ZTE Flagship Store และ Lazada: ZTE Mobile
