นอกจาก Xiaomi 15 Ultra ที่เปิดตัวในจีนเป็นครั้งแรก ทาง Xiaomi ก็ยังได้นำเสนอหูฟัง TWS รุ่นใหม่ Xiaomi Buds 5 Pro และแล็ปท็อปทรงพลัง Redmi Book Pro 16 (2025) ขนาด 16 นิ้ว ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
Xiaomi Buds 5 Pro
หูฟังไร้สายทั่วไปมักใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และ Xiaomi Buds 5 Pro ก็ทำได้เช่นกัน โดยรองรับความเร็วสูงสุด 2.1Mbps ด้วยแพลตฟอร์ม Snapdragon S7+ Audio ซึ่งเพียงพอสำหรับการเล่นเพลงคุณภาพสูงแบบ Lossless ที่ 48kHz/24-bit
แต่เมื่อจับคู่กับ Xiaomi 15 Ultra หูฟังรุ่นนี้มีจุดเด่นใหม่ที่น่าสนใจ คือสามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi เพื่อเพิ่ม Bitrate สูงสุดถึง 4.2Mbps ซึ่งรองรับการเล่นเพลง Lossless ที่ 96kHz/24-bit ได้อย่างสบาย ๆ
นอกจากนี้การใช้ Wi-Fi เชื่อมต่อยังมีข้อดีเพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยี XPAN (eXpanded Personal Area Network) ของ Qualcomm ที่ช่วยขยายระยะการเชื่อมต่อให้ครอบคลุมทั่วบ้าน พร้อมรักษาคุณสมบัติการใช้พลังงานต่ำ โดยที่ XPAN รองรับการส่งสัญญาณเสียงแบนด์วิดท์สูง ความหน่วงต่ำ และฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น เสียงรอบทิศทางพร้อมระบบติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชัน Wi-Fi นี้มีเฉพาะในรุ่นสี Phantom Black เท่านั้น ส่วนสีอื่น ๆ จะรองรับเฉพาะ Bluetooth
Xiaomi Buds 5 Pro มาพร้อมกับ Dual DACs และ Dual Amps ที่ขับเคลื่อนด้วยไดรเวอร์คู่ ช่วงความถี่ตอบสนองอยู่ที่ 15Hz ถึง 50kHz และได้รับการปรับแต่งเสียงโดยทีม Golden Ears ของ Harman เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจนในย่านความถี่กลางและสูง
หูฟังรุ่นนี้มีไมโครโฟน 3 ตัว ติดตั้งระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation (ANC) ที่ระดับ 55dB และสามารถลดเสียงลมได้ดีแม้ในระดับความแรงลม 15 เมตร/วินาที ซึ่งตามข้อมูลของ Xiaomi หูฟังรุ่นนี้มีพลังตัดเสียงรบกวนมากกว่า Xiaomi Buds 4 Pro ถึงสองเท่า
เรื่องแบตเตอรี่ก็น่าสนใจ เมื่อใช้ Bluetooth จะสามารถฟังต่อเนื่องได้นาน 8 ชั่วโมง แต่หากใช้ Wi-Fi จะเพิ่มเป็น 10 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จ จะใช้งานได้รวม 40 ชั่วโมง รองรับทั้งการชาร์จแบบมีสายและไร้สาย
ตัวหูฟังมีมาตรฐานกันฝุ่นและน้ำที่ IP54 รองรับฟีเจอร์ Audio Sharing บริเวณก้านหูฟังถูกออกแบบให้ไวต่อการสัมผัสและแรงกด สามารถเลื่อนนิ้วเพื่อปรับระดับเสียง หรือบีบด้วยสองนิ้วเพื่อสั่งการได้
Xiaomi Buds 5 Pro วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าออนไลน์ของ Xiaomi ในจีน รุ่น Bluetooth ราคา 1,300 หยวน หรือราว 5,800 บาท ส่วนรุ่นที่รองรับ Wi-Fi ราคา 1,500 หยวน หรือราว 6,700 บาท
Redmi Book Pro 16 (2025)
หลังจากอัปเกรด Redmi Book 14 และ 16 รุ่นปกติ ไปเมื่อเดือนที่แล้ว Xiaomi ก็ได้หันมาพัฒนาแล็ปท็อปในตระกูล Pro กับรุ่น Redmi Book Pro 16 (2025) โดยที่รุ่นนี้ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 7 255H รุ่นที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพ AI สูงถึง 96 TOPS และกราฟิก Intel Arc (พร้อมตัวเลือกรุ่นย่อยที่ใช้ Core Ultra 5 225H)
Redmi Book Pro 16 (2025) มีน้ำหนัก 1.88 กิโลกรัม ความหนา 15.9 มม. มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 99Wh (สูงสุดเท่าที่จะนำขึ้นเครื่องบินได้) รองรับการใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมง ชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ GaN 140W
หน้าจอขนาด 16 นิ้วของรุ่นนี้ มีอัตรารีเฟรช 165Hz อัตราส่วน 16:10 (ความละเอียด 3,072 x 1,920 พิกเซล) ครอบคลุมการแสดงผลสี 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง DisplayHDR 400 (ความสว่างสูงสุด 500nits) และรองรับทั้ง Dolby Vision และ Dolby Atmos
สำหรับชิป Intel ที่ใช้งาน ผลิตด้วยเทคโนโลยี TSMC N3B รุ่น Ultra 7 มาพร้อม 16 คอร์ CPU (ความเร็วสูงสุด 5.1GHz) กราฟิก Xe 8 คอร์ และแคช 24MB ซึ่ง Xiaomi ระบุว่าเร็วกว่ารุ่น Redmi Book Pro 16 ปี 2024 ถึง 21.6%
ส่วนรุ่น Ultra 5 มี 14 คอร์ CPU (4.9GHz) กราฟิก 7 Xe คอร์ และแคช 18MB เพิ่มประสิทธิภาพจากรุ่นปี 2024 ถึง 29.5%
ด้วยชิปที่ทรงพลังทาง Xiaomi จึงออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่และท่อความร้อน 3 เส้น รองรับการระบายความร้อนได้สูงสุด 80W
Redmi Book Pro 16 (2025) วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าออนไลน์ของ Xiaomi ในจีน รุ่น Ultra 5 (RAM 32GB, ความจุ 1TB) ราคา 6,500 หยวน หรือราว 29,000 บาท ส่วนรุ่น Ultra 7 (RAM 32GB, ความจุ 1TB) ราคา 7,500 หยวน หรือราว 33,500 บาท
Xiaomi 15 Ultra อวดภาพถ่ายชุดแรก ชู “Night God” เก็บแสงภาพกลางคืน
เปิดตัว Xiaomi 15 Ultra ชูจุดขาย กล้อง Telephoto 200MP ระยะ 100 มม. สุดล้ำ
