Xiaomi 15 Ultra ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว มาพร้อมการออกแบบที่สวยงามทันสมัย ใช้ชิปเซ็ตล่าสุด แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น และพัฒนาระบบกล้องที่เดิมทีก็ทรงพลังอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น
Xiaomi 15 Ultra รุ่นใหม่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite จับคู่กับ RAM แบบ LPDDR5X ขนาด 12GB หรือ 16GB และมีตัวเลือกหน่วยความจำ UFS 4.1 ขนาด 256GB, 512GB หรือ 1TB ชิปเซ็ตมอบประสิทธิภาพที่สูงขึ้นถึง 45% และประหยัดพลังงานได้มากถึง 52%
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น มีการเพิ่มสัดส่วนซิลิคอนคาร์ไบด์ถึง 10% และความจุเพิ่มขึ้น 17% เป็น 6,000mAh (สำหรับรุ่นที่วางจำหน่ายทั่วโลกคาดว่าจะมีความจุ 5,410mAh) โดยยังคงรองรับการชาร์จแบบมีสาย 90W และชาร์จไร้สาย 80W
หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด 3200×1440 พิกเซล มีอัตรารีเฟรช 1-120Hz และความสว่างสูงสุดถึง 3,200 นิต
ในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่อง Xiaomi 15 Ultra มาในสี Black และ White รวมถึงรุ่นพิเศษ Silver Chrome Edition โดยรุ่นสี Black มีพื้นผิวด้านหลังแบบด้านมีช่วยให้จับถนัดมือ ส่วนรุ่นสี White มีพื้นผิวที่ผ่านการสลักอย่างปราณีต
เฟรมเครื่องทำจากอะลูมิเนียมที่ผ่านการตัดด้วย CNC ส่วนกระจกเป็น Shield Glass 2.0 ของ Xiaomi ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันการตกกระแทกได้ดีขึ้นถึง 16 เท่า
สำหรับรุ่นพิเศษ Silver Chrome ใช้วัสดุใยแก้วเกรดการบินและหนัง PU ผสมผสานความทันสมัยของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมเข้ากับดีไซน์กล้องระดับมืออาชีพแบบคลาสสิก รุ่นนี้มีน้ำหนัก 229 กรัม (หนักกว่ารุ่นอื่นที่ 226 กรัม) และหนา 9.48 มม. (เทียบกับ 9.35 มม. ในรุ่นมาตรฐาน)
มาถึงจุดเด่นอย่างระบบกล้องกันบ้าง Xiaomi 15 Ultra ยังคงใช้ระบบกล้อง 4 ตัว ที่ปรับแต่งร่วมกับ Leica ซึ่งในทางทฤษฎีคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า ประกอบด้วยเลนส์ Wide, เลนส์ Telephoto ระยะสั้น, เลนส์ Telephoto ระยะยาว และเลนส์ Ultrawide แต่มีการปรับปรุง
กล้องหลักยังคงใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ 23 มม. แต่ในปีนี้เปลี่ยนมาใช้รูรับแสงคงที่ f/1.63 แทนที่จะเป็นแบบปรับได้ f/1.6-f/4.0 ส่วนกล้อง Telephoto ระยะกลางใช้เซ็นเซอร์ IMX858 ขนาด 1/2.51 นิ้ว เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเลนส์จาก 75 มม. f/1.8 เป็น 70 มม. f/1.8
ส่วนกล้อง Ultrawide บนสเปกดูเหมือนจะลดลงเล็กน้อย จากเลนส์ 12 มม. f/1.8 ใน Xiaomi 14 Ultra มาเป็น 14 มม. f/2.2 แต่ทั้งคู่ยังใช้เซ็นเซอร์ Samsung JN5 ขนาด 1/2.51 นิ้วเหมือนกัน
จุดเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่และเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญคือกล้อง Telephoto ระยะ 100 มม. f/2.6 ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ Samsung HP9 ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ขนาด 1/1.4 นิ้ว เหมือนที่ใช้ใน vivo X100 Ultra และ X200 Pro โดยมีขนาดใหญ่กว่าที่ใช้ในกล้องซูม 120 มม. ของ Xiaomi 14 Ultra (ขนาด 1/2.51 นิ้ว) อย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง Xiaomi ระบุว่ากล้องนี้สามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 136%
ด้านกล้องหน้าคือเลนส์ 21 มม. f/2.0 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ซึ่งแทบไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า โดยกล้องหลังทั้ง 4 ตัวสามารถถ่ายวิดีโอ 8K ได้สูงสุด 30fps และทุกกล้อง (รวมถึงกล้องหน้า) รองรับ 4K สูงสุด 60fps โดยกล้องหลักและกล้อง Telephoto 100 มม. ยังถ่าย 4K ได้สูงสุด 120fps อีกด้วย
Xiaomi 15 Ultra ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 15 พร้อมซอฟต์แวร์ HyperOS 2 ของ Xiaomi มีการอัปเดตหน้าจอล็อก, หน้าจอหลัก และแอปพลิเคชันระบบต่าง ๆ เทคโนโลยี HyperCore ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการประมวลผล กราฟิก ระบบเครือข่าย และความเป็นส่วนตัว
ส่วน HyperAI นำเสนอเครื่องมืออย่าง AI Writing ซึ่งเป็นผู้ช่วยครอบคลุมทั้งระบบ ช่วยเขียนคำโฆษณา ปรับปรุงข้อความ สรุปเนื้อหา ถอดเสียงการประชุม และแปลภาษา โดยที่ Xiaomi จะมอบการอัปเดตระบบ Android 4 รุ่น และอัปเดตความปลอดภัยนาน 6 ปีให้กับซีรีส์ Xiaomi 15
Xiaomi 15 Ultra เริ่มวางจำหน่ายในจีนวันนี้ โดยรุ่น 12/256GB ราคา 6,499 หยวน หรือราว 28,900 บาท, รุ่น 16/512GB ราคา 6,999 หยวน หรือราว 31,100 บาท, รุ่น 16GB/1TB ราคา 7,799 หยวน หรือราว 34,700 บาท และคาดว่าจะขยายสู่ตลาดโลกในวันอาทิตย์นี้
นอกจากนี่ Xiaomi ยังมีชุดอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับมืออาชีพ (Professional Imaging Kit) ราคา 999 หยวน หรือราว 4,400 บาท
เผยคลิปแกะเครื่อง XIAOMI 15 ULTRA อย่างเป็นทางการ ก่อนเปิดตัว
