vivo Y39 5G สมาชิกใหม่ล่าสุดจากตระกูล Y Series ที่ vivo ส่งมาเสริมทัพไลน์อัปในตลาดมือถือ 5G สเปกคุ้มราคา ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้ยกระดับสเปกมาได้เกินราคาค่าตัว และค่อนข้างน่าใช้แบบ “เอาอยู่ ทุกความท้าทาย”

โดย vivo Y39 5G นั้นก็มาพร้อมกับสเปกและฟีเจอร์สุดครบครัน ชูจุดขายตั้งแต่งานดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยทันสมัย ดูดีระดับพรีเมียม โครงสร้างป้องกันการกระแทกครอบคลุมทั้งตัวเครื่อง อีกทั้งแบตเตอรี่ BlueVolt สุดจุใจ 6500mAh แถมเรื่องถ่ายรูปก็ดีด้วยกล้องหลัก 50MP กับราคาเปิดตัวแบบเบา ๆ ที่ 7,999 บาท

และตอนนี้ vivo Y39 5G ก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงาน MX เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากรู้ว่ารุ่นนี้จะมีทีเด็ดอะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันในรีวิวนี้ได้เลยครับ

แกะกล่อง

ตัวกล่องของ vivo Y39 5G จะเป็นกล่องสีขาวที่มีรูปภาพและชื่อรุ่นระบุไว้อย่างชัดเจน

โดยภายในกล่องจะประกอบด้วย ตัวเครื่อง vivo Y39 5G พร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่ หัวชาร์จ / สายชาร์จ USB-C / เคสใส / ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง) / เข็มจิ้มซิม / คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

ดีไซน์

อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้นครับว่า vivo Y39 5G มีดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยทันสมัย ดูดีระดับพรีเมียม โดยมากับ 2 ตัวเลือกสีใหม่ ได้แก่ สีม่วง Galaxy Purple (กาแล็กซี เพอเพล) เฉดสีม่วงเข้มเปล่งประกายละมุนตา ผสานความหรูหรากับเสน่ห์อย่างลงตัว และ สีฟ้า Ocean Blue (โอเชียน บลู) เฉดสีฟ้าอ่อนถึงเข้มเปล่งประกายระยิบระยับ ราวกับแสงแดดที่สะท้อนบนคลื่นน้ำ

โดย vivo Y39 5G ยังคงนำเสนอจุดเด่นในเรื่องของความบางเบาเช่นเดียวกับ Y Series รุ่นอื่น ๆ ที่ผ่านมา โดยตัวเครื่องนั้นมีความบางเพียง 8.09 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 205 กรัม (สีม่วง Galaxy Purple) พร้อมขอบฝาหลังโค้งเป็นมุมเล็กน้อยประมาณ 40% ทั้ง 4 ด้าน จึงสามารถถือใช้งานได้อย่างสะดวกสบายด้วยมือข้างเดียว และจับกระชับเข้ารับกับสรีระของฝ่ามือได้ดีครับ

โมดูลกล้องของ vivo Y39 5G ใช้รูปแบบทรงกลมยอดนิยมสไตล์เดียวกับพวกรุ่นเรือธง บริเวณรอบนอกตกแต่งด้วยดีไซน์ลวดลายเพชรแบบ 2 ชั้น ที่มักพบบนนาฬิกาหรู ให้ความรู้สึกพรีเมียมและดูทันสมัย รวมถึงวงแหวนกล้องที่มีลักษณะคล้ายเซรามิก มีความเงางาม ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวกล้อง

สำหรับกล้องหลังจะมีกล้อง 2 ตัว เป็นกล้องหลัก 50MP (f/1.8) + กล้องโบเก้ 2MP (f/2.4) พร้อมด้วยไฟแฟลช LED แบบวงแหวนที่อยู่ด้านข้าง

ถัดมาที่หน้าจอของ vivo Y39 5G จะเป็นจอ IPS LCD ขนาด 6.68 นิ้ว ความละเอียด 720×1608 พิกเซล (HD+) รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างสูงสุด 1000nits แสดงผลได้อย่างคมชัดสีสันสดใส มองเห็นชัดเจนแม้จะอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า จะเล่นโซเชียลฯ ท่องเว็บไซต์ ดูวิดีโอ เล่นเกม หรืออ่านเนื้อหาต่าง ๆ ก็สามารถทำได้อย่างเต็มอรรถรส พร้อมการันตีด้วยมาตรฐานการรองรับแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland

บริเวณตรงกลางด้านบนของหน้าจอจะเจาะรูกล้องหน้า 8MP (f/2.0) พร้อมด้วยลำโพงที่อยู่แนบชิดติดขอบตัวเครื่อง

ตัวบอดี้ของ vivo Y39 5G มาพร้อมกรอบโลหะขัดเงาแบบขอบเรียบที่หลายคนชื่นชอบ โดยขอบด้านขวาจะมีปุ่ม Power ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย และปุ่มปรับระดับเสียง

ขอบด้านบนจะมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน 1 ตัว

ขอบด้านล่างจะมีไมโครโฟน พอร์ต USB-C และลำโพง

ขณะที่ขอบด้านซ้ายจะมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 2 ซิม ซึ่งจะไม่รองรับหน่วยความจำเสริม microSD Card

นอกจากดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยทันสมัย ดูดีระดับพรีเมียมแล้ว vivo Y39 5G ยังเน้นไปในเรื่องของการอัปเกรดระดับความทนทาน ด้วยกระจกหน้าจอสัญชาติเยอรมนี อย่าง SCHOTT Xensation® α รวมถึงได้รับการรับรองจาก SGS ระดับ 5 ดาว และผ่านการทดสอบจากมาตรฐานการตกกระแทกทางทหารสหรัฐ

vivo Y39 5G มีโครงสร้างป้องกันการกระแทกครอบคลุมทั้งตัวเครื่อง โดยมาพร้อมโครงสร้างอะลูมิเนียมภายในตัวเครื่อง ช่วยซึมซับแรงกระแทก ป้องกันความเสียหายของฮาร์ดแวร์ภายในได้ ตั้งแต่มุมของหน้าจอ ช่องใส่เมนบอร์ด ไปจนถึงแบตเตอรี่

อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เอาอยู่ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนในชีวิตประจำวัน ด้วยมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP64 และเทคโนโลยี Wet Touch ไม่ว่าจะโดนละอองฝนหรือเผลอทำน้ำหกใส่โดยไม่ได้ตั้งใจ ก็สามารถสัมผัสหน้าจอและใช้งานต่อได้อย่างไร้กังวล

ประสิทธิภาพและการใช้งาน

vivo Y39 5G รันด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 เวอร์ชันล่าสุด ที่ทำงานอยู่บน Android 15 ซึ่งก็มีลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่มากมาย หน้าตา UI เน้นความเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ส่วนพวกเมนูการใช้งานหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากมือถือ Android ทั่วไปครับ

ด้านขุมพลังภายในของรุ่นนี้มากับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 4 Gen 2 (4nm) แบบ Octa-core ความเร็ว 2.2GHz ที่ใช้งานได้ลื่นไหลและประหยัดพลังงาน รวมทั้งรองรับการใช้งาน 5G พร้อมหน่วยความจำ LPDDR4X + UFS 3.1 ในรุ่นความจุ 8GB + 256GB รองรับฟีเจอร์ขยาย RAM สูงสุด 8GB ซึ่งก็นับว่าแรงเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานต่าง ๆ เท่าที่มือถือ 5G สเปกคุ้มราคาในยุคนี้จะทำได้

โดยฟีเจอร์ขยาย RAM นั้นจะสามารถเปลี่ยนพื้นที่ว่างของหน่วยความจำ Storage ที่ยังไม่ได้ใช้มาเพิ่มเป็น RAM ได้อีก 8GB ทำให้มี RAM รวมกันมากถึง 16GB เลยทีเดียว

ซึ่งการมี RAM สูง ๆ แน่นอนว่าจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้งานให้เป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด จะเล่นเกมหนัก ๆ หรือเปิดหลายแอปฯ พร้อมกันก็ไม่มีปัญหา ส่วน Storage ที่ให้มาเยอะก็ช่วยให้หมดกังวลเรื่องหน่วยความจำเต็มเร็ว เพราะหลายคนอาจจะชอบทั้งถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ หรือดาวน์โหลดแอปฯ เกม รวมทั้งไฟล์มีเดียต่าง ๆ ซึ่งหน่วยความจำขนาด 256GB ที่ให้มาจริง ๆ ก็นับว่าเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานโดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน

ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.68 นิ้ว จึงทำให้ vivo Y39 5G รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เต็มอรรถรส ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ภาพสวยคมชัด ลื่นไหล แถมยังมีลำโพงสเตอริโอคู่อัปเกรดใหม่ พร้อมฟีเจอร์เพิ่มพลังเสียงสูงสุด 400% อีกด้วย

จากการลองทดสอบเล่นเกมต่าง ๆ ก็เล่นได้ค่อนข้างลื่นไหลไม่มีสะดุด บางเกมอาจตั้งค่าความละเอียดกราฟิกได้ระดับปานกลาง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะโดยรวมแล้วก็ยังสามารถเล่นได้ลื่นไหลและไม่ค่อยมีอาการกระตุกให้เห็น

ในเรื่องการเล่นเกม vivo Y39 5G จะมีฟีเจอร์ Ultra Game Mode ที่สามารถสลับระหว่างโหมด “ประหยัดแบตเตอรี่” โหมด “สมดุล” และโหมด “BOOST” ได้ทันทีจากแถบด้านข้าง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้สนุกไปกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่

โดยสามารถตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม รวมทั้งการจัดการที่ช่วยให้ไม่ถูกขัดจังหวะจากการแจ้งเตือน หรือสายโทรเข้า เป็นต้น

และอีกหนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ vivo Y39 5G ก็คือแบตเตอรี่ที่ให้มาแบบจุใจขนาด 6500mAh โดยเป็นแบต BlueVolt ที่มีต้นทุนสูงแบบเดียวกับรุ่นรือธงของ vivo ทำให้รุ่นนี้มีแบตขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในตระกูล Y Series

ซึ่งแน่นอนว่าเพียงพอที่จะใช้ได้ยาว ๆ ตลอดทั้งวัน เช่น ดูวิดีโอต่อเนื่องยาวนานถึง 40 ชั่วโมง เปิดแผนที่นำทางยาวนานถึง 13 ชั่วโมง เล่นเกมยอดฮิต PUBG ได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง และ Mobile Legend ได้มากกว่า 9 ชั่วโมง หรือแม้แต่การเหลือแบตเตอรี่ที่ต่ำก็ยังสแตนด์บายได้เกือบชั่วโมงครึ่ง

ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 6500mAh ทำให้ vivo Y39 5G สามารถใช้เป็นแบตสำรองให้กับอุปกรณ์อื่นได้ด้วย โดยมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับแบตสำรองความจุขนาด 4800mAh เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังรับประกันสุขภาพแบตคงเหลือที่ 80% หรือมากกว่า แม้หลังชาร์จไปแล้วถึง 1,500 รอบ ภายในระยะเวลา 5 ปี

อีกทั้งรองรับชาร์จไว 44W FlashCharge ที่ชาร์จจาก 1% ถึง 100% ได้ในเวลา 83 นาที พร้อมระบบ Smart Charging อัลกอลิธึมช่วยถนอมการชาร์จอัจฉริยะจาก vivo เพิ่มความปลอดภัยระหว่างการชาร์จข้ามคืน ปรับแรงดันไฟตามความเหมาะสม ยืดอายุการใช้งานและควบคุมความร้อนไปจนถึงการหยุดชาร์จเมื่ออุณหภูมิสูงเกินไป

ส่องกล้อง

เรื่องกล้องก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ vivo Y39 5G ด้วยกล้องหลัง 2 ตัว กล้องหลัก กล้องหลัก 50MP (f/1.8) + กล้องโบเก้ 2MP (f/2.4) และกล้องหน้า 8MP (f/2.0) พร้อมทั้งฟีเจอร์สำหรับถ่ายภาพมาให้แบบแน่น ๆ ตามสไตล์ของ vivo

โดยเฉพาะสายเซลฟี่กับโหมดถ่ายภาพบุคคล ที่มีตัวเลือกในการปรับแต่งภาพในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการปรับโทนสีผิว รูปร่างใบหน้า หรืออื่น ๆ เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามเป็นธรรมชาติ หรือจะถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยโบเก้ ตกแต่งภาพถ่ายด้วยฟิลเตอร์ก็มีมาให้พร้อม

ด้านโหมดสำหรับการถ่ายภาพอื่น ๆ นั้นก็ใช้งานได้ง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนเรื่องความสวยของภาพนั้นทำได้ดีเกินคาด รวม ๆ แล้วก็ยอมรับว่าเป็นมือถืออีกเครื่องที่ใช้ถ่ายเล่นได้สนุกดีเลยทีเดียวครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ vivo Y39 5G

ข้อมูลสเปกvivo Y39 5G

• ขนาดตัวเครื่อง
  – 165.70 × 76.30 × 8.09 มิลลิเมตร (Galaxy Purple)
  – 165.70 × 76.30 × 8.19 มิลลิเมตร (Ocean Blue)
• น้ำหนัก
  – 205 กรัม (Galaxy Purple)
  – 206 กรัม (Ocean Blue)
• หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.68 นิ้ว ความละเอียด 720×1608 พิกเซล (HD+) รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างสูงสุด 1000nits
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 4 Gen 2
• RAM 8GB + ฟีเจอร์ขยาย RAM 8GB
• Storage 256GB
• กล้องหน้า 8MP (f/2.0)
• กล้องหลัง 50MP (f/1.8) + โบเก้ 2MP (f/2.4)
• ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 บน Android 15
• แบตเตอรี่ 6500mAh ชาร์จไว 44W
• การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 5, Bluetooth 5.1, USB-C
• สี ม่วง Galaxy Purple / ฟ้า Ocean Blue

สรุป

โดยปกติแล้วมือถือจากตระกูล Y Series ของ vivo ในหลาย ๆ รุ่นที่ผ่านมาก็มักจะได้รับความนิยมอยู่แล้ว ซึ่ง vivo Y39 5G รุ่นใหม่นี้ก็ยังคงตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยสเปกและฟังก์ชันสุดครบครันในราคาสุดคุ้มค่า ชนิดที่ไม่ได้เป็นรองใครเมื่อเทียบกันกับมือถือระดับราคานี้ของคู่แข่งแบรนด์อื่น ๆ

ส่วนตัวจึงมองว่า vivo Y39 5G เป็นเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับคนที่กำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ ซึ่งได้ทั้งแบตเตอรี่จุใจ 6500mAh การันตีสุขภาพแบตนาน 5 ปี มีกล้องหลักคมชัด 50MP จอใหญ่ 6.68 นิ้ว ลื่นไหล 120Hz ชิป Snapdragon 4 Gen 2 เร็วแรง ลำโพงสเตอริโอคู่ อีกทั้งดีไซน์สวยทันสมัย ดูดีระดับพรีเมียม มีตัวเครื่องและหน้าจอสุดทนทาน รวมถึงมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP64

vivo Y39 5G วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อม “เอาอยู่ทุกความท้าทาย” ไปกับผู้ใช้งานชาวไทยที่หน้าร้าน vivo Brand Shop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศแล้ววันนี้ ในราคาเพียง 7,999 บาท

ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ vivo Y39 5G และติดตามข่าวสารเทคโนโลยีอื่น ๆ จาก vivo ได้ที่เว็บไซต์ https://www.vivo.com/th และเฟซบุ๊ก vivo Thailand

vivo Y39 5G น้องเล็กสเปกคุ้มรุ่นใหม่ เปิดตัวแล้วในไทย ราคาเพียง 7,999 บาท