ในปีนี้ vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ยังคงจัดเต็มด้วยการส่งมือถือแทบทุกระดับราคามาเอาใจแฟน ๆ อย่างต่อเนื่องเช่นเคย โดยประเดิมตั้งแต่ช่วงต้นปีด้วยเรือธงตัวโหด vivo X100 5G | X100 Pro 5G ตามมาด้วยรุ่นกลางถ่ายเทพเกินคน vivo V30 5G | V30 Pro 5G รวมถึงน้องเล็กสเปกเต็ม 100 อย่าง vivo Y100 | Y100 5G เมื่อเร็ว ๆ นี้

ซึ่งล่าสุดทางค่ายก็ได้ส่งคู่หูน้องเล็กสมาชิกใหม่ของตระกูล Y Series มาอีก 2 รุ่น นั่นก็คือ vivo Y28 และ vivo Y18 ที่ชูจุดขายด้วยตัวเครื่องบางเบาดีไซน์สวยสะดุดตา พร้อมสเปกสุดครบครันคุ้มราคา หน้าจอสู้แสงแดด ใช้งานลื่นไหล ถ่ายภาพสวยด้วยกล้องหลัก 50MP และแบตเตอรี่จุใจ ในงบเริ่มต้นแค่เพียง 4,499 บาทเท่านั้น

และตอนนี้ vivo Y28 และ vivo Y18 ก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงาน mxphone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ก็ตามมาดูกันในรีวิวนี้กับเราได้เลยครับ
แกะกล่อง

สำหรับตัวกล่องของ vivo Y28 และ vivo Y18 จะเป็นสีขาวล้วน ที่มีชื่อแบรนด์ vivo ชื่อรุ่น Y28 และ Y18 รวมทั้งตัว Y ที่เป็นชื่อของตระกูล Y Series ประทับไว้บนตัวกล่องอย่างชัดเจน
ความแตกต่างข้อแรกระหว่าง 2 รุ่นนี้จะเห็นได้ว่ากล่องของ vivo Y28 นั้นมีความหนากว่าของ vivo Y18 เนื่องจากยังแถมหัวชาร์จมาให้ในกล่อง ส่วนทางด้าน vivo Y18 แน่นอนว่าเป็นรุ่นงบประหยัดที่จะไม่มีหัวชาร์จมาให้ในกล่องแล้วนั่นเองครับ

ภายในกล่องของ vivo Y28 จะพบกับตัวเครื่องพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย หัวชาร์จ / สายชาร์จ USB-C / เคสซิลิโคนใส / ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง) / อุปกรณ์ถอดถาดซิม / คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน

ขณะที่ภายในกล่องของ vivo Y18 ก็จะพบกับตัวเครื่องพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย สายชาร์จ USB-C / เคสซิลิโคนใส / ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง) / อุปกรณ์ถอดถาดซิม / คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน
ดีไซน์

งานดีไซน์ตัวเครื่องของ vivo Y28 และ vivo Y18 ก็นับได้ว่าเป็นความแตกต่างอีกข้อระหว่าง 2 รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝาหลัง โมดูลกล้อง ตัวบอดี้ และหน้าจอ ซึ่งก็มีการออกแบบมาให้ดูแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

โดย vivo Y28 จะมี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีพีช (Gleaming Orange) และ สีเขียว (Agate Green) ขณะที่ vivo Y18 ก็จะมี 2 สีให้เลือกเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นสีฟ้า (Wave Aqua) และสีน้ำตาล (Mocha Brown) ครับ

vivo Y28 และ vivo Y18 ยังคงนำเสนอจุดเด่นในเรื่องของความบางเบาเช่นเดียวกับมือถือจากตระกูล Y Series รุ่นอื่น ๆ ที่ผ่านมา โดย vivo Y28 มีน้ำหนัก 199 กรัม สีพีช (Gleaming Orange) มีสัดส่วนตัวเครื่อง 165.70 × 76.00 × 8.09 มิลลิเมตร ส่วนสีเขียว (Agate Green) มีสัดส่วนตัวเครื่อง 165.70 × 76.00 × 7.99 มิลลิเมตร
ขณะที่ vivo Y18 มีน้ำหนัก 185 กรัม สีฟ้า (Wave Aqua) มีสัดส่วนตัวเครื่อง 163.63 × 75.58 × 8.53 มิลลิเมตร ส่วนสีน้ำตาล (Mocha Brown) มีสัดส่วนตัวเครื่อง 163.63 × 75.58 × 8.39 มิลลิเมตร

vivo Y28 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.68 นิ้ว ความละเอียด 720×1608 พิกเซล (HD+) รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz ส่วนทางด้าน vivo Y18 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 720×1612 พิกเซล (HD+) รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz แสดงผลได้อย่างคมชัดสีสันสดใส มองเห็นชัดเจนแม้จะอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้าทั้ง 2 รุ่น

vivo Y28 และ vivo Y18 มีกล้องหน้า 8MP เหมือนกัน แต่บริเวณด้านบนหน้าจอของ vivo Y28 จะเป็นแบบเจาะรูกล้อง ส่วนทางด้าน vivo Y18 จะเป็นแบบติ่งทรงหยดน้ำ พร้อมด้วยลำโพงสำหรับสนทนาที่อยู่แนบชิดติดขอบจอเหมือนกันทั้ง 2 รุ่น

และถึงแม้ว่า vivo Y28 และ vivo Y18 จะเป็นมือถือราคาประหยัด แต่ก็มีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยและดูพรีเมียมไม่ต่างจากตระกูล V Series สามารถถือใช้งานได้อย่างสะดวกสบายด้วยมือข้างเดียว และจับกระชับเข้ารับกับสรีระของฝ่ามือได้ดีครับ

โดย vivo Y28 และ vivo Y18 จะมีกล้องหลัง 2 ตัว เลนส์หลัก 50MP เหมือนกัน พร้อมไฟแฟลช LED จัดวางในวงแหวนขนาดใหญ่ พร้อมฐานกรอบสี่เหลี่ยมขอบโค้งมนสีเดียวกันกับตัวเครื่อง ซึ่งจะมีความแตกต่างกันตรงที่ vivo Y28 จะเป็นกรอบรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วน vivo Y18 จะเป็นกรอบรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

นอกจากนี้ vivo Y28 ยังมีไฟวงแหวน Dynamic Light เพิ่มเข้ามา ซึ่งสามารถตั้งค่าเพื่อให้ไฟนี้สว่างเมื่อมีแจ้งเตือน หรือสายโทรเข้าได้ด้วย

ตัวบอดี้ของทั้ง 2 รุ่นมีขอบเครื่องแบบเหลี่ยมพิมพ์นิยม โดยขอบด้านขวาจะมีปุ่ม และปุ่มปรับระดับเสียง

ขอบด้านล่างของ vivo Y28 จะมีลำโพง พอร์ต USB-C ไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ส่วนของ vivo Y18 จะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พอร์ต USB-C และไมโครโฟน

ขอบด้านบนของ vivo Y28 จะเรียบ ๆ ไม่มีอะไร แต่ของ vivo Y18 จะมีลำโพง


ขอบด้านซ้ายของทั้ง 2 รุ่นจะมีช่องใส่ซิมการ์ด โดยของ vivo Y28 เป็นแบบ Hybrid Slot ที่สามารถเลือกใส่ SIM 1 + SIM 2 หรือ SIM 1 + microSD ส่วนของ vivo Y18 เป็นแบบ Triple Slot ที่สามารถใส่ SIM 1 + SIM 2 และ microSD ได้พร้อมกันทั้งหมด
ประสิทธิภาพและการใช้งาน

vivo Y28 และ vivo Y18 นั้นจะรันด้วย Funtouch OS 14 เวอร์ชันล่าสุด ที่อยู่บนพื้นฐาน Android 14 ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งก็มีลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่มากมาย หน้าตา UI เน้นความเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ส่วนพวกเมนูการใช้งานหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากมือถือ Android ทั่วไปครับ


ด้านขุมพลังภายในของทั้ง 2 รุ่นใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 เหมือนกัน พร้อมกับหน่วยความจำ RAM LPDDR4X + พร้อมฟีเจอร์ขยาย RAM และ ROM eMMC 5.1 ซึ่งก็นับว่าแรงเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานต่าง ๆ เท่าที่มือถือราคาประหยัดงบหลักพันในยุคนี้จะทำได้


โดย vivo Y28 มีรุ่นความจุ 8GB+128GB และ 8GB+256GB ส่วน vivo Y18 มีรุ่นความจุ 4GB+128GB และ 8GB+128GB


ขณะที่ฟีเจอร์ขยาย RAM นั้นจะสามารถเปลี่ยนพื้นที่ว่างของหน่วยความจำ ROM ที่ยังไม่ได้ใช้มาเพิ่มเป็น RAM ได้อีกสูงสุด 8GB ซึ่งการมี RAM สูง ๆ แน่นอนว่าจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้งานให้เป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด จะเล่นเกมหนัก ๆ หรือเปิดหลายแอปฯ หลาย ๆ แอปฯ พร้อมกันก็ไม่มีปัญหา


ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.68 นิ้ว ของ vivo Y28 และ 6.56 นิ้ว ของ vivo Y18 จึงทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เต็มอรรถรส ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ภาพสวยคมชัด แถมลำโพงก็ดังเสียงดีใช้ได้








ทดสอบเล่นเกมต่าง ๆ หลากหลายแนว ทั้ง 2 รุ่นก็สามารถเล่นได้แบบสบาย ๆ ลื่นไหลดี โดยในเรื่องการเล่นเกม vivo Y28 และ vivo Y18 จะมีฟีเจอร์ Ultra Game Mode ที่สามารถสลับระหว่างโหมด “ประหยัดแบตเตอรี่” โหมด “สมดุล” และโหมด “BOOST” ได้ทันทีจากแถบด้านข้าง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้สนุกไปกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่
โดยสามารถตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม รวมทั้งการจัดการที่ช่วยให้ไม่ถูกขัดจังหวะจากการแจ้งเตือน หรือสายโทรเข้า เป็นต้น


และไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ใช้เพื่อความบันเทิง หรือเล่นเกม ทั้ง 2 รุ่นก็สามารถใช้ได้อย่างยาวนานเกือบตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มาแบบจุใจ โดย vivo Y28 มีแบตเตอรี่ขนาด 6000mAh เลยทีเดียว ส่วน vivo Y18 มีแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh

โดย vivo Y28 จะรองรับชาร์จเร็วสูงสุด 44W ขณะที่ vivo Y18 จะรองรับชาร์จเร็วสูงสุด 15W
ส่องกล้อง

เรื่องกล้องก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ vivo Y28 และ vivo Y18 ด้วยกล้องหลัง 2 ตัว ที่เป็นกล้องหลัก 50MP (f/1.8) เหมือนกัน แต่ vivo Y28 จะมีกล้องรอง 2MP ส่วน vivo Y18 จะมีกล้องรอง 0.08MP (f/3.0) และกล้องหน้า 8MP (f/2.0) เหมือนกัน พร้อมทั้งฟีเจอร์สำหรับถ่ายภาพมาให้แบบแน่น ๆ ตามสไตล์ของ vivo



คุณสมบัติในการถ่ายภาพของทั้ง 2 รุ่น ก็มีมาครบ และค่อนข้างคล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น กลางคืน, ภาพบุคคล, ภาพถ่าย, วิดีโอ, 50MP, พาโนรามา, เอกสาร, สโลว์โมชั่น, ไทม์แลปส์, โปร และไลฟ์โฟโต้
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้งานได้ง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ส่วนเรื่องความสวยของภาพก็นับว่าทำได้ดีมาก ๆ ถ่ายจบหลังกล้องโดยไม่ต้องแต่งเพิ่มเลย

โดยเฉพาะสายเซลฟีกับโหมดถ่ายภาพบุคคล ที่มีตัวเลือกในการปรับแต่งภาพในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการปรับโทนสีผิว รูปร่างใบหน้า หรืออื่น ๆ เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามเป็นธรรมชาติ





จะถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยโบเก้ ตกแต่งภาพถ่ายด้วยฟิลเตอร์ หรือแม้แต่ใครที่ไม่เก่งเรื่องการโพสต์ท่าถ่ายเซลฟี รุ่นนี้ก็มีไกด์ไลน์ท่าทางสำหรับโพสต์มาแล้วให้พร้อม

สำหรับกล้องหลัก 50MP มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างคมชัดทุกสภาพแสงส่วนกล้องรองนั้นจะช่วยให้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ตัว AI ของกล้องก็รู้สึกว่ามาช่วยเพิ่มความสามารถให้กล้องทำงานได้อย่างฉลาดมากขึ้น

จะถ่ายย้อนแสง ถ่ายที่แสงน้อย ถ่ายกลางคืน ถ่ายบุคคล หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่ใช้โหมดการถ่ายแบบอัตโนมัติยังออกมาสวยโดยแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม รวม ๆ แล้วค่อนข้างประทับใจกับเรื่องกล้องถ่ายภาพของทั้ง 2 รุ่นนี้มาก ๆ ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo Y28

































ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo Y18












ข้อมูลสเปก vivo Y28 และ vivo Y18
vivo Y28 | vivo Y18 | |
ขนาดตัวเครื่อง | 165.70 × 76.00 × 8.09 มิลลิเมตร สีพีช (Gleaming Orange) 165.70 × 76.00 × 7.99 มิลลิเมตร สีเขียว (Agate Green) | 163.63 × 75.58 × 8.53 มิลลิเมตร สีฟ้า (Wave Aqua) 163.63 × 75.58 × 8.39 มิลลิเมตร สีน้ำตาล (Mocha Brown) |
น้ำหนัก | 199 กรัม | 185 กรัม |
หน้าจอ | IPS LCD ขนาด 6.68 นิ้ว ความละเอียด 720×1608 พิกเซล (HD+) รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz | IPS LCD ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 720×1612 พิกเซล (HD+) รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz |
ชิปเซ็ต | MediaTek Helio G85 | |
หน่วยความจำ | 8GB+128GB 8GB+256GB | 4GB+128GB 8GB+128GB |
กล้องหน้า | 8MP (f/2.0) | |
กล้องหลัง | 50MP (f/1.8) + 2MP (f/2.4) | 50MP (f/1.8) + 0.08MP (f/3.0) |
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch OS 14 บน Android 14 | |
แบตเตอรี่ | 6000mAh / ชาร์จเร็ว 44W | 5000mAh / ชาร์จเร็ว 15W |
การเชื่อมต่อ | 4G / Wi-Fi ac / Bluetooth 5.0 / USB-C | |
สี | พีช (Gleaming Orange) เขียว (Agate Green) | ฟ้า (Wave Aqua) น้ำตาล (Mocha Brown) |
สรุป

โดยสรุปแล้วส่วนตัวมองว่า vivo Y28 และ vivo Y18 ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็คาดว่าน่าจะได้รับความนิยมเหมือนกันกับมือถือจากตระกูล Y Series ของ vivo ในหลาย ๆ รุ่นที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังมองหามือถืองบหลักพันที่มาพร้อมสเปกและประสิทธิภาพสุดครบครันคุ้มราคา

ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่คมชัด ชิปเซ็ตเร็วแรงใช้งานลื่นไหล ถ่ายภาพสวยด้วยกล้องหลัก 50MP แบตเตอรี่อึดจุใจ พร้อมตัวเครื่องบางเบาดีไซน์ฝาหลังสวยสะดุดตา
ราคา และช่องทางจำหน่าย
สำหรับใครที่สนใจ vivo Y28 และ vivo Y18 ก็เตรียมจับจองเพื่อเป็นเจ้าของกันได้แล้ว

vivo Y28
- 8GB+128GB ราคา 6,299 บาท
- 8GB+256GB ราคา 6,999 บาท

vivo Y18
- 4GB+128GB ราคา 4,499 บาท
- 8GB+128GB ราคา 5,499 บาท
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.vivo.com/th/products
vivo ส่ง vivo Y28 เสริมทัพสมาร์ตโฟน Y Series ฟีเจอร์อัดแน่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ในราคาสุดคุ้ม
รีวิว iQOO Z9 5G | Z9x 5G คู่หูระดับกลางตัวคุ้ม สเปกสุดจัดเต็ม จอชัด ชิปแรง แบตอึดจุใจ 6000mAh