
vivo เปิดตัว vivo X200 Series อย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน สานต่อความสำเร็จการเป็นมือถือเรือธงกล้องเทพของตระกูล vivo X Series ซึ่งรอบนี้มาด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ vivo X200, vivo X200 Pro และ vivo X200 Pro mini ที่เป็นโมเดลใหม่สำหรับคนชอบมือถือจอเล็ก


โดย vivo X200 และ vivo X200 Pro ยังคงมาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องและโมดูลกล้องหลังเป็นทรงกลมขนาดใหญ่ที่คล้ายกันกับรุ่นก่อนหน้า ส่วนสีตัวเครื่องก็ยึด 3 สีหลักคล้ายกับ vivo X100 Ultra ที่จะมีสีดำ สีขาว และสีไทเทเนียม อีกทั้งเพิ่มสีสันใหม่อย่างสีฟ้าแซฟไฟร์เข้ามาเป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้ด้วยนั่นเอง
vivo X200 มากับหน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1260×2800 พิกเซล (1.5K) รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ขณะที่ vivo X200 Pro มากับหน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1260×2800 พิกเซล (1.5K) รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz


แน่นอนว่าทั้ง vivo X200 และ vivo X200 Pro ยังมาพร้อมกล้องที่ทำงานร่วมกับทาง ZEISS โดย vivo X200 มีกล้องหลัก 50MP + Ultrawide 50MP + Periscope Telephoto 50MP ขณะที่ vivo X200 Pro มีกล้องหลัก 50MP + Ultrawide 50MP + Periscope Telephoto 200MP และมีกล้องหน้า 32MP เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น
ทั้ง vivo X200 และ vivo X200 Pro ใช้ชิปเซ็ตเรือธง 3nm ล่าสุด Dimensity 9400 ของ MediaTek ร่วมกับหน่วยความจำแบบ LPDDR5X + UFS 4.0
vivo X200 มีแบตเตอรี่ 5800mAh รองรับชาร์จเร็ว 90W ขณะที่ vivo X200 Pro มีแบตเตอรี่ 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 90W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 30W

และนอกจาก vivo X200 และ vivo X200 Pro แล้ว ครั้งนี้ทาง vivo ยังได้เปิดตัว vivo X200 Pro mini ที่เป็นโมเดลใหม่สำหรับคนชอบมือถือจอเล็ก แต่สเปกยังได้จัดเต็มแทบจะเหมือนกันกับ vivo X200 Pro ซึ่งต่างกันแต่เรื่องสีสันตัวเครื่อง ที่จะมีสีดำ สีขาว สีเขียว และสีชมพู ให้เลือก
vivo X200 Pro mini มากับหน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.31 นิ้ว ความละเอียด 1216×2640 พิกเซล (FHD+) รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz มีกล้องเหมือนกับ vivo X200 Pro คือ กล้องหลัก 50MP + Ultrawide 50MP + Periscope Telephoto 200MP และกล้องหน้า 32MP

vivo X200 Pro mini ยังได้ใช้ชิป MediaTek Dimensity 9400 เหมือนกับ vivo X200 และ vivo X200 Pro ร่วมกับหน่วยความจำแบบ LPDDR5X + UFS 4.0 ขณะที่แบตเตอรี่ให้มาที่ 5700mAh รองรับชาร์จเร็ว 90W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 30W
นอกจากนี้ vivo X200 Series ทุกรุ่น จะรันด้วย OriginOS 5 บน Android 15 รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, 5G, NFC, Bluetooth 5.4 และพอร์ต USB-C
ราคาจำหน่ายในจีนของ vivo X200, vivo X200 Pro และ vivo X200 Pro mini

vivo X200
- 12GB+256GB ราคา 4,299 หยวน (ประมาณ 20,200 บาท)
- 12GB+512GB ราคา 4,699 หยวน (ประมาณ 22,100 บาท)
- 16GB+512GB ราคา 4,999 หยวน (ประมาณ 23,500 บาท)
- 16GB+1TB ราคา 5,499 หยวน (ประมาณ 25,800 บาท)
vivo X200 Pro
- 12GB+256GB ราคา 5,299 หยวน (ประมาณ 24,900 บาท)
- 16GB+512GB ราคา 5,999 หยวน (ประมาณ 28,200 บาท)
- 16GB+1TB ราคา 6,499 หยวน (ประมาณ 30,500 บาท)
- 16GB+1TB Satellite Edition ราคา 6,799 หยวน (ประมาณ 31,900 บาท)
vivo X200 Pro mini
- 12GB+256GB ราคา 4,699 หยวน (ประมาณ 22,100 บาท)
- 16GB+512GB ราคา 5,299 หยวน (ประมาณ 24,900 บาท)
- 16GB+1TB ราคา 5,799 หยวน (ประมาณ 27,700 บาท)
ใช้รุ่นไหนเช็ค! มือถือ vivo และ iQOO ที่จะได้อัปเดต Funtouch OS 15 มีเกือบ 20 รุ่นได้อัปก่อนสิ้นปี 2024
vivo ประกาศอัปเกรด V40 Series 5G รองรับ 5G+ NRCA บนเครือข่าย AIS แล้ว เตรียมเพิ่มรุ่นอื่น ๆ ภายในปีนี้
เจาะลึกเบื้องหลังความร่วมมือด้านนวัตกรรมสุดล้ำ vivo – ZEISS ยกระดับประสบการณ์ถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนสู่มือผู้ใช้งาน