Samsung เปิดตัวแท็บเล็ต Android ระดับเรือธงรุ่นใหม่อย่าง Galaxy Tab S10 Series อย่างเป็นทางการ โดยที่เป็นไปตามข่าวลือที่ว่าจะมาแค่รุ่น 12.4 นิ้ว ที่เป็นโมเดล Plus กับ 14.6 นิ้วที่เป็นโมเดล Ultra เท่านั้น
Galaxy Tab S10 Series จะเป็นครั้งแรกที่แท็บเล็ต Tab S ใช้ชิปเซ็ต MediaTek อย่าง Dimensity 9300+ โดยชิปตัวผลิตบนกระบวนการ 4nm รุ่นที่ 3 ของ TSMC มี Cortex-X4 หนึ่งตัวที่ 3.4GHz กับแกน X4 อีกสามตัวที่ 2.85GHz ทำงานกับ Cortex-A720 สี่ตัวที่ 2.0GHz ใช้ GPU เป็น ARM Immortalis-G720 และมี NPU MediaTek 790
เมื่อเทียบกับ Snapdragon 8 Gen 2 ที่ใช้กับ Tab S9 ตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่จะมี CPU เร็วขึ้น 18%, GPU เร็วขึ้น 28% และ NPU ใหม่นำมาซึ่งประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น 14%
ทางด้านสเปคความจำพื้นฐานยังเริ่มที่ 12/256GB โดยที่ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับช่องใส่การ์ดสำหรับหน่วยความจำเสริม รวมถึงตัวเลือกรุ่น 512GB โดยรุ่นนี้มี RAM 12GB ขณะที่รุ่น Ultra เป็นรุ่นเดียวที่เสนอตัวเลือก RAM 16GB และที่เก็บข้อมูล 1TB
ขนาดของทั้งสองรุ่นแทบจะเหมือนกับ Tab S9 ยกเว้นสัดส่วนที่บางลง 0.1 มม. แถมเบากว่าประมาณ 15 กรัม แต่ยังคงมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 บอดี้ทำจาก Armor Aluminium
Samsung Galaxy Tab S10 Ultra มีจอแสดงผล OLED ขนาด 14.6 นิ้ว ความละเอียด 2,960 x 1,848 พิกเซล และอัตราการรีเฟรช 120Hz กล้องหน้าคู่เลนส์ Wide 12 ล้านพิกเซล และ Ultrawide 12 ล้านพิกเซล มีแบตเตอรี่ 11,200mAh พร้อมการชาร์จ 45W ตามมาตรฐานของ Samsung
สิ่งที่น่าสนใจคือแม้จะใช้ชิปเซ็ตเดียวกัน แต่แท็บเล็ตทั้งสองรุ่นมีตัวเลือกการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน โดยที่ทั้งคู่มีตัวเลือก Wi-Fi และรุ่น 5G แต่อย่างไรก็ตาม Tab S10 Ultra จะเป็น 5G sub-6GHz และ Wi-Fi 7 (be)
รุ่น 5G ของ Samsung Galaxy Tab S10+ จะเป็น sub-6GHz และ mmWave 5G แต่จำกัดอยู่ที่ Wi-Fi 6E (ax) mmWave เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม รุ่น Galaxy Tab S10+ มีจอแสดงผล OLED ขนาด 12.4 นิ้ว ความละเอียด 2,800 x 1,752 พิกเซล และมีกล้องหน้าเพียงตัวเดียว (Wide 12 ล้านพิกเซล) โดยที่แท็บเล็ตทั้งสองรุ่นมีการเคลือบป้องกันการสะท้อนแสง
Tab S10+ มีแบตเตอรี่ที่เล็กกว่าเล็กน้อยที่ 10,090mAh พร้อมการชาร์จ 45W ตามปกติ ในส่วนของระบบปฏิบัติการแท็บเล็ตทั้งสองรุ่นเปิดตัวพร้อม Android 14 มีฟีเจอร์ Galaxy AI ที่คุ้นเคย แต่มีวิธีใหม่ในการเรียกใช้ S Pen (มาพร้อมกับแท็บเล็ต) สามารถเรียกใช้ Air Command พร้อม AI เพื่อเข้าถึง Galaxy AI Assistant ได้อย่างง่ายดาย
ในกรณีที่ใช้เคสแป้นพิมพ์ จะมีปุ่ม Galaxy AI เฉพาะ (คล้ายกับแล็ปท็อป Galaxy Book) พร้อมคุณสมบัติ Circle to Search, Sketch to Image และ Note Assist โดยที่ฟีเจอร์ตัวสุดท้ายจะช่วยจัดระเบียบบันทึก, ถอดเสียง และสรุปการบันทึกเสียง รวมถึงแปลไฟล์ PDF มี Handwriting Help เพื่อรักษาลักษณะลายมือ แต่ทำให้สิ่งต่าง ๆ เป็นระเบียบมากขึ้นและอ่านได้ง่ายขึ้น
แท็บเล็ต Tab S10 รองรับการทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ Galaxy Home AI สามารถสร้างมุมมองแผนที่ 3D ของตัวบ้าน ทำให้ใช้งานรวมถึงค้นหาอุปกรณ์ SmartThings ที่ต้องการควบคุมได้ง่ายขึ้น
Samsung Galaxy Tab S10+ และ Tab S10 Ultra สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ และจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม Tab S10+ เริ่มต้นที่ 1,000 ดอลลาร์ หรือราว 32,400 บาท ในขณะที่ Tab S10 Ultra เริ่มต้นที่ 1,200 ดอลลาร์ หรือราว 38,900 บาท ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับสองสี: Moonstone Gray และ Platinum Silver
พรีวิว Samsung Galaxy Tab S10+ / Tab S10 Ultra แท็บเล็ตเรือธง AI จะทำงาน เอ็นเตอร์เทน ก็เอาอยู่
