ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว การมาของ OPPO N1 เรียกเสียงฮือฮาจากตลาด Smartphone ได้พอสมควร เพราะถือว่าเป็น Smartphone ตัวแรกของโลกที่มีกล้องหมุนได้ พร้อมด้วยสโลแกน Return to innovation สื่อให้เห็นถึงนวัตกรรมใหม่ๆจาก OPPO และนั่นถือว่าเป็นความสำเร็จที่ก้าวไปอีกขั้นของ OPPO ในแง่ของนวัตกรรม แตกต่างไปจากแบรนด์ประเทศจีนอื่นๆ ที่ส่วนมากแล้วจะเน้นไปที่ Spec แรงราคาถูกเท่านั้น ซึ่งการสร้างนวัตกรรมเหล่านี้ถือเป็น Brand value added ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีขึ้น และด้วยนวัตกรรมนี้เองจึงเป็นที่มาของรุ่นใหม่แต่ไซส์มินิอย่าง OPPO N1 mini ที่เปิดตัวกันสดๆร้อนๆที่เมืองไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เองครับ
OPPO N1 mini ยังคงดีไซน์การออกแบบเดิมของ N1 ไว้ครบ ทั้งวัสดุ, สีและรูปแบบเครื่อง เหมือนเอาไฟฉายย่อส่วนของโดเรม่อนมาฉายใส่ N1 ยังไงยังงั้น ลักษณะตัวเครื่องบางลงจาก N1 แต่ส่วนของฝาหลังเอามีการขยายออกทำให้มีสัดส่วนจากด้านหน้าและหลังไม่ต่างกัน เวลาจับแล้วจะรู้สึกว่าขอบตัวเครื่องไม่มีส่วนที่ยื่นออกมาจากฝาหลังให้จับแล้วแปลกๆแบบของ N1
ด้านหน้าขอบเครื่องต่างๆเป็นพลาสติกมัน หน้าจอขนาดอยู่ที่ 5 นิ้ว ความละเอียดแบบ HD ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้เป็นความละเอียดที่สูงมากที่สุด แต่เท่าที่เล่นดูพบว่าหน้าจอค่อนข้างละเอียด ใช้งานแล้วสบายตาไม่มีลายเส้นขาดๆอะไรให้หงุดหงิด ส่วนปุ่มควบคุมเครื่องทั้ง 3 ใช้เป็น Capacitive touch ที่ต้องบอกว่ายังไม่ได้พัฒนาอะไรไปมากกว่าของ N1 ซึ่งผมว่าการตอบสนองมันทำได้ไวไป บางทีเรายังไม่ทันตั้งใจจะกดมันก็ทำงานเองแทบไม่ต้องมีน้ำหนักการสัมผัสกันเลยทีเดียว แต่ระยะห่างของแต่ละปุ่มวางออกมาได้ดีกดได้ง่ายดีครับ
รอบๆตัวเครื่องมีปุ่มควบคุมทั้งหลายอยู่ ด้านซ้ายมีปุ่ม Power/Wake ส่วนด้านขวามีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง โดยตัวปุ่มเองก็เช่นเดียวกันยังไม่ได้พัฒนาอะไรมาก ปุ่มยังดูไม่พอดีกับช่อง สัมผัสแล้วเด้งไปมา และทำออกมามีหน้าสัมผัสที่เล็กเกินไป บวกกับไม่มีน้ำหนักการกดเท่าไรนัก กดติดง่ายไป ทำให้เวลาอยู่ในกระเป๋ากางเกงหรืออยู่ในฝ่ามือบางทีแค่จับเครื่องก็กดเองได้ง่ายๆ ที่จริงน่าจะปรับให้ดูมีน้ำหนักและปุ่มเองสามารถกดแบบตั้งใจกดได้ง่ายกว่านี้ ส่วนขอบข้างเครื่องมีการปรับเปลี่ยนวัสดุไปจาก N1 นิดหน่อยคือเปลี่ยนไปใช้วัสดุพลาสติกเคลือบมันที่จับแล้วสบายมือมากขึ้น พอสมควรแบบรู้สึกได้
ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อต่างๆครบไม่ว่าจะเป็นช่องเชื่อมต่อ microUSB และช่องใส่หูฟัง 3.5 มม. รวมถึงพวกลำโพงและไมค์ ก็มาอัดแน่นอยู่ตรงนี้ครับ
มาถึงส่วนไฮไลท์ของเครื่องคือส่วนบนที่เป็นตัวกล้องที่หมุนได้ โดยตัววัสดุตัวนี้เองเป็นพลาสติกทั้งหมด กล้องสามารถหมุนได้ 195 องศา ซึ่งเค้าว่าดีที่สุดแล้วในการถ่ายรูปแบบรอบทิศทาง แต่โดยปกติแล้วเราจะไม่ค่อยเห็นมือถือที่ออกแบบชิ้นส่วนที่สามารถเคลื่อนไหวได้พวกนี้เท่าไรนัก เพราะที่จริงแล้วชิ้นส่วนพวกนี้อันตรายครับ เนื่องจากมือถือเรามีโอกาสตกหล่นบ่อยครั้ง ถ้าไปกระทบกระเทือนกับชิ้นส่วนที่หมุนได้เหล่านี้คงไม่ดีแน่ แถมค่าซ่อมยังจะแพงอีก
อย่างไรก็ตามทาง OPPO เองก็ยืนยันว่าชิ้นส่วนตัวนี้แข็งแรงและสามารถหมุนได้ยาวนานถึง 8 ปี หากเฉลี่ยหมุนวันละ 20 ครั้ง ซึ่งการหมุนนี้เองทำให้เรามีกล้องหน้า/หลังที่ความละเอียดเท่าๆกัน รวมถึงเอาไว้ถ่ายภาพในมุมแปลกๆได้อีกด้วย แต่ข้อเสียของมันก็คือไม่สามารถใช้พวกฟังก์ชันกล้องคู่ได้ (Dual Camera) นี่สิครับ
เช่นเดียวกับ N1 คือฝาหลังไม่สามารถแกะได้ ทำให้มันไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ รวมถึงไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD card ได้ แต่ยังมีช่องใส่ซิมนะ แต่ต้องใช้เข็มจิ้มเพื่อดึงถาดซิมออกมาเหมือนกับรุ่นก่อน
[Review] OPPO N1 mini กล้องหมุนได้อีกครั้งกับขนาดที่ใช่ หน้าที่ 2