รีวิว Redmi Note 13 Pro+ 5G | Redmi Note 13 5G | Redmi Note 13 : 3 สมาชิกใหม่จาก Redmi Note 13 Series เด็ดทุกรุ่น สเปกจัดเต็ม ราคาน่าคบ

โดย nineFangKhaoW | 15 มกราคม 2567 เมื่อ 20:46 น. | อ่าน 6,447
รีวิว Redmi Note 13 Pro+ 5G | Redmi Note 13 5G | Redmi Note 13 : 3 สมาชิกใหม่จาก Redmi Note 13 Series เด็ดทุกรุ่น สเปกจัดเต็ม ราคาน่าคบ

Xiaomi เปิดประเดิมต้นปี 2024 นี้ได้แบบน่าสนุกตื่นเต้นเลยทีเดียว ด้วยการส่ง Redmi Note 13 Series ลุยตลาดทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยแล้วอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งยังสร้างเซอร์ไพรส์เอาใจเหล่าอากาเซ่ โดยได้ ‘แบมแบม กันต์พิมุกต์’ มาเป็น Southeast Asia Ambassador ให้กับรุ่นนี้อีกด้วย

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

และถ้าพูดถึงมือถือตระกูล Redmi Note Series ของ Xiaomi ต้องยอมรับเลยว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและขายดีที่สุดของแบรนด์เลยก็ว่าได้ ด้วยจุดแข็งของการเป็นมือถือระดับกลางที่มาพร้อมประสิทธิภาพสุดครบครันจัดเต็มคุ้มราคา

ซึ่งล่าสุดมือถือตระกูล Redmi Note Series นี้ก็เดินทางมาถึง Redmi Note 13 Series กันแล้วนั่นเอง โดยเบื้องต้นจะเปิดตัวในไทยด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13

และตอนนี้ทั้ง 3 รุ่นดังกล่าวก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงาน mxphone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าแต่ละรุ่นจะมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ก็ตามมาดูกันในรีวิวนี้กับเราได้เลยครับ

แกะกล่อง

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 ทั้ง 3 รุ่นมาในกล่องสีขาวที่มีรูปภาพและชื่อรุ่นของแต่ละรุ่นระบุไว้บนตัวกล่องอย่างชัดเจน สไตล์เดียวกันกับ Redmi Note Series รุ่นอื่น ๆ ที่ผ่านมา

โดยเมื่อแกะกล่องของแต่ละรุ่นออกมาก็จะพบกับตัวเครื่องพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย หัวชาร์จ / สายชาร์จ USB-C / เคส / ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง) / อุปกรณ์ถอดถาดซิม / คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน

สำหรับหัวชาร์จของ Redmi Note 13 Pro+ 5G จะเป็นแบบ 120W ส่วนของ Redmi Note 13 5G กับ Redmi Note 13 จะเป็นแบบ 33W

ดีไซน์

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

ฝาหลังตัวเครื่องของ Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 ทั้ง 3 รุ่นมาในดีไซน์แบบเน้นความเรียบหรูดูพรีเมียม สวยงามทันสมัย ด้วยวัสดุที่เป็นกระจก

Redmi Note 13 Pro+ 5G จะมี 3 สีให้เลือก คือ สีดำ (Midnight Black), สีขาว (Moonlight White) และ สีม่วง (Aurora Purple) โดยเครื่องที่อยู่ในรีวิวของเรานี้ก็จะเป็นสีม่วง (Aurora Purple)

Redmi Note 13 5G จะมี 3 สีให้เลือก คือ สีดำ (Graphite Black), สีขาว (Arctic White) และ สีฟ้า (Ocean Teal) โดยเครื่องที่อยู่ในรีวิวของเรานี้ก็จะเป็นสีฟ้า (Ocean Teal)

Redmi Note 13 จะมี 3 สีให้เลือก คือ สีดำ (Midnight Black), สีเขียว (Mint Green) และ สีรุ้ง (Ocean Sunset) โดยเครื่องที่อยู่ในรีวิวของเรานี้ก็จะเป็นสีรุ้ง (Ocean Sunset)

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

โดยรุ่นท็อป Redmi Note 13 Pro+ 5G จะมีฝาหลังแบบขอบโค้งมนพื้นผิวกึ่งมันกึ่งด้าน ซึ่งสำหรับสีม่วง (Aurora Purple) นี้ก็มีลูกเล่นด้วยการนำสีอื่น ๆ โทนพาสเทลมาตัดกันบริเวณโมดูลกล้องดูสวยสะดุดตา อีกทั้งมีกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ซึ่งเป็นกล้องหลัก 200MP ร่วมกับกล้อง Ultrawide 8MP และกล้อง Macro 2MP จัดวางอยู่ในกรอบวงแหวนขนาดใหญ่ 2 วง และวงเล็กอีก 1 วง พร้อมด้วยไฟแฟลช LED คู่

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

ถัดมาที่ Redmi Note 13 5G จะมีฝาหลังแบบเรียบแบนพื้นผิวด้าน อีกทั้งมีกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ซึ่งเป็นกล้องหลัก 108MP ร่วมกับกล้อง Ultrawide 8MP และกล้อง Macro 2MP จัดวางอยู่ในกรอบวงแหวนขนาดใหญ่ 2 วง และวงเล็กอีก 1 วง พร้อมด้วยไฟแฟลช LED วางบนฐานกรอบทรงสี่เหลี่ยมสีเดียวกันกับตัวเครื่อง

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

ขณะที่ Redmi Note 13 ก็จะมีฝาหลังแบบเรียบแบนแต่พื้นผิวมันวาว อีกทั้งมีกล้องหลังจำนวน 3 ตัวที่เหมือนกันกับ Redmi Note 13 5G ซึ่งเป็นกล้องหลัก 108MP ร่วมกับกล้อง Ultrawide 8MP และกล้อง Macro 2MP จัดวางอยู่ในกรอบวงแหวนขนาดใหญ่ 2 วง และวงเล็กอีก 1 วง พร้อมด้วยไฟแฟลช LED

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

กรอบตัวเครื่องของทั้ง 3 รุ่นใช้วัสดุอะลูมิเนียมแข็งแรงทนทาน พร้อมกับขอบเครื่องแบบเรียบ จึงถือจับกระชับเข้ารับกับสรีระของฝ่ามือได้ดี และใช้งานได้สะดวกสบายด้วยมือข้างเดียว

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

บริเวณขอบด้านขวาของแต่ละรุ่นจะมีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

ขอบด้านซ้ายของ Redmi Note 13 Pro+ 5G กับ Redmi Note 13 จะเป็นขอบเรียบไม่มีปุ่มกดใด ๆ แต่ Redmi Note 13 5G จะมีช่องใส่ซิมการ์ด

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

ขอบด้านบนของแต่ละรุ่นจะมี IR Blaster และไมโครโฟนเหมือนกัน โดย Redmi Note 13 Pro+ 5G กับ Redmi Note 13 5G จะมีลำโพงมาให้ด้วย ขณะที่ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร จะมีมาให้เฉพาะ Redmi Note 13 5G กับ Redmi Note 13

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

ส่วนขอบด้านล่างของแต่ละรุ่นจะมีไมโครโฟน พอร์ต USB-C และลำโพงเหมือนกัน โดย Redmi Note 13 Pro+ 5G กับ Redmi Note 13 จะมีช่องใส่ซิมการ์ดที่ด้านล่างด้วย และที่สำคัญคือ Redmi Note 13 Pro+ 5G กับ Redmi Note 13 นั้นเป็นรุ่นมีลำโพงคู่ที่ด้านบนและด้านล่างมาให้นั่นเอง

ถาดซิมการ์ดของ Redmi Note 13 Pro+ 5G จะเป็นแบบ Dual SIM ไม่สามารถใส่การ์ดหน่วยความจำเสริม microSD ได้ ขณะที่ของ Redmi Note 13 5G กับ Redmi Note 13 จะเป็นแบบ Hybrid ที่สามารถเลือกใส่ซิม 1 + ซิม 2 หรือ microSD ได้

นอกจากนี้ Redmi Note 13 Pro+ 5G ยังมีมาตรฐานกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68 ส่วน Redmi Note 13 5G กับ Redmi Note 13 เป็น IP54

หน้าจอ

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 ทั้ง 3 รุ่นมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz เหมือนกัน แต่ Redmi Note 13 Pro+ 5G จะมีหน้าจอแบบขอบโค้ง ขณะที่ Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 จะมีหน้าจอแบบเรียบ

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

สำหรับ Redmi Note 13 Pro+ 5G ยังมีความละเอียดของหน้าจอมากที่สุด คือ 1.5K (2712×1220 พิกเซล) และรองรับ Dolby Vision ส่วน Redmi Note 13 5G กับ Redmi Note 13 มีความละเอียดของหน้าจอ FHD+ (2400×1080 พิกเซล)

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

บริเวณตรงกลางด้านบนของหน้าจอของทั้ง 3 รุ่นจะเจาะรูกล้องหน้า 16MP เหมือนกัน และ Redmi Note 13 Pro+ 5G กับ Redmi Note 13 ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ

นอกจากนี้หน้าจอของทั้ง 3 รุ่นยังได้รับรองจาก TÜV Rheinland 3 อย่าง ประกอบด้วย การปราศจากการกระพริบ (Flicker Free), แสงสีฟ้าต่ำ (Low Blue Light) และการเป็นมิตรทางชีวภาพตลอดทั้งวันกับผู้ใช้งาน (Circadian Friendly)

ประสิทธิภาพและการใช้งาน

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมระบบปฏิบัติการ MIUI 14 บน Android 13 ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งก็มีลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่มากมาย หน้าตา UI เน้นความเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ส่วนพวกเมนูการใช้งานหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากมือถือ Android ทั่วไปครับ

ด้านขุมพลังภายในของแต่ละรุ่นแน่นอนว่าจะใช้ใช้ชิปเซ็ตที่แตกต่างกัน โดย Redmi Note 13 Pro+ 5G จะใช้ชิป MediaTek Dimensity 7200-Ultra ส่วน Redmi Note 13 5G ใช้ชิป MediaTek Dimensity 6080 และ Redmi Note 13 ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 685

ขณะที่หน่วยความจำของ Redmi Note 13 Pro+ 5G เป็น RAM LPDDR5 + Storage UFS 3.1 ส่วน Redmi Note 13 5G กับ Redmi Note 13 เป็น RAM LPDDR4X และ Storage UFS 2.2

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว พร้อมขอบจอสุดบางของทั้ง 3 รุ่น จึงทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เต็มอรรถรส ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ภาพสวยคมชัด และยังลื่นไหลเพราะสามารถปรับรีเฟรชเรทให้เหมาะสมกับเนื้อหาในการใช้งานได้โดยอัตโนมัติสูงสุดที่ 120Hz

ส่วนสเปกที่ให้มาของทั้ง 3 รุ่นนี้ก็นับว่าแรงเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานต่าง ๆ เท่าที่มือถือระดับกลางในยุคนี้จะทำได้

ลองทดสอบการเล่นเกมต่าง ๆ หลากหลายแนวก็เล่นได้แบบสบาย ๆ และยังมีฟีเจอร์ Game Turbo ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สนุกไปกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม รวมทั้งการจัดการที่ช่วยให้ไม่ถูกขัดจังหวะจากการแจ้งเตือน หรือสายโทรเข้า เป็นต้น

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

และไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ใช้เพื่อความบันเทิง หรือเล่นเกม ทั้ง 3 รุ่นนี้ก็สามารถใช้ได้อย่างยาวนานเกือบตลอดวัน ด้วยแบตเตอรี่ความจุถึง 5000mAh

โดย Redmi Note 13 Pro+ 5G รองรับชาร์จไวสูงสุด 120W ส่วน Redmi Note 13 5G กับ Redmi Note 13  รองรับชาร์จไวสูงสุด 33W ซึ่งก็มีหัวชาร์จแถมมาให้ในกล่องทั้ง 3 รุ่น ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม

ส่องกล้อง

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

มาถึงตรงนี้ก็จะเป็นในเรื่องของการถ่ายภาพที่เรียกว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์เด็ดเหมือนกันของ Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

กล้องหลังของ Redmi Note 13 Pro+ 5G ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก 200MP, f/1.65, 16-in-1 Binning to 2.24µm, 1/1.4” Sensor Size, 7P Lens, OIS
  • กล้อง Ultrawide 8MP, f/2.2, มุมมองกว้าง 119°
  • กล้อง Macro 2MP, f/2.4
Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

กล้องหลังของ Redmi Note 13 5G ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก 108MP, f/1.75, 9-in-1 Binning to 1.92µm
  • กล้อง Ultrawide 8MP, f/2.2, มุมมองกว้าง 119°
  • กล้อง Macro 2MP, f/2.4
Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

กล้องหลังของ Redmi Note 13 ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก 108MP, f/1.75, 9-in-1 Binning to 1.92µm
  • กล้อง Ultrawide 8MP, f/2.2, มุมมองกว้าง 119°
  • กล้อง Macro 2MP, f/2.4

คุณสมบัติในการถ่ายภาพของทั้ง 3 รุ่นนั้นก็มีมาครบ และค่อนข้างคล้าย ๆ กัน ซึ่งก็จัดมาให้แบบแน่น ๆ ตามสไตล์ของ Xiaomi ไม่ว่าจะเป็น โหมดอัตโนมัติ โหมดโปร โหมดภาพบุคคล โหมดกลางคืน โหมดวิดีโอ โหมด 200MP (Redmi Note 13 Pro+ 5G) / โหมด 108MP (Redmi Note 13 5G กับ Redmi Note 13) โหมดสโลโมชั่น โหมดพาโนรามา โหมดมาโคร โหมดหนังสั้น และอื่น ๆ

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้งานได้ง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ส่วนเรื่องความสวยของภาพก็นับว่าทำได้ดีมาก ๆ ถ่ายจบหลังกล้องโดยแทบไม่ต้องแต่งเพิ่มเลย

นอกจากนี้ตัว AI ของกล้องก็รู้สึกว่ามาช่วยเพิ่มความสามารถให้กล้องทำงานได้อย่างฉลาดมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย จะถ่ายย้อนแสง ถ่ายที่แสงน้อย ถ่ายกลางคืน ถ่ายบุคคล หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่ใช้โหมดการถ่ายแบบอัตโนมัติยังออกมาสวยโดยแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม รวม ๆ แล้วค่อนข้างประทับใจกับเรื่องกล้องถ่ายภาพของทั้ง 3 รุ่นนี้มาก ๆ ครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Redmi Note 13 Pro+ 5G

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Redmi Note 13 5G

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Redmi Note 13

ข้อมูลสเปก Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13

รุ่นRedmi Note 13 Pro+ 5GRedmi Note 13 5GRedmi Note 13
ขนาดตัวเครื่อง (มิลลิเมตร)161.4×74.2×8.9161.11×74.95×7.6162.24×75.55×7.97
น้ำหนัก (กรัม) 174.5188.5
หน้าจอCrystalRes AMOLED Display
ขนาด 6.67 นิ้ว
ความละเอียด 1.5K (2712×1220 พิกเซล)
รีเฟรชเรท 120Hz รองรับ Dolby Vision
AMOLED Display
ขนาด 6.67 นิ้ว
ความละเอียด FHD+ (2400×1080 พิกเซล)
รีเฟรชเรท 120Hz
ชิปเซ็ตMediaTek
Dimensity 7200-Ultra
MediaTek
Dimensity 6080
Qualcomm
Snapdragon 685
หน่วยความจำLPDDR5+UFS 3.1
8GB+256GB
12GB+512GB
LPDDR4X+UFS 2.2
8GB+256GB
12GB+512GB
LPDDR4X+UFS 2.2
8GB+256GB
กล้องหน้า16MP
กล้องหลังกล้องหลัก 200MP, f/1.65, 16-in-1 Binning to 2.24µm, 1/1.4″, OIS
กล้อง Ultrawide 8MP, f/2.2, มุมมองกว้าง 119°
กล้อง Macro 2MP, f/2.4
กล้องหลัก 108MP, f/1.75, 9-in-1 Binning to 1.92µm
กล้อง Ultrawide 8MP, f/2.2, มุมมองกว้าง 119°
กล้อง Macro 2MP, f/2.4
ระบบปฏิบัติการMIUI 14 บน Android 13
แบตเตอรี่5000mAh
ชาร์จไว 120W
5000mAh
ชาร์จไว 33W
การเชื่อมต่อ5G
Wi-Fi 6
Bluetooth 5.3
NFC
USB-C
5G
Wi-Fi ac
Bluetooth 5.3
NFC
USB-C
AUX 3.5 mm
4G
Wi-Fi ac
Bluetooth 5.1
NFC
USB-C
AUX 3.5 mm
มาตรฐานกันฝุ่นและน้ำIP68IP54
สีดำ (Midnight Black)
ขาว (Moonlight White)
ม่วง (Aurora Purple)
ดำ (Graphite Black)
ขาว (Arctic White)
ฟ้า (Ocean Teal)
ดำ (Midnight Black)
เขียว (Mint Green)
รุ้ง (Ocean Sunset)

สรุป

Redmi Note 13 Pro+ 5G รีวิว

โดยสรุปแล้ว Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 ทั้ง 3 รุ่นนี้ก็คาดว่าน่าจะได้รับความนิยมเหมือนกันกับ Redmi Note Series รุ่นที่ผ่าน ๆ มาอย่างแน่นอน ด้วยตัวสเปกที่ค่อนข้างจัดหนักจัดเต็มสวนทางกับราคาค่าตัวที่ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังมองหามือถือระดับกลางที่มาพร้อมประสิทธิภาพสุดครบครันคุ้มราคานั่นเอง

ราคา และช่องทางจำหน่าย

Redmi Note 13 Pro+ 5G ราคา

Redmi Note 13 Pro+ 5G พร้อมให้ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 16 – 26 มกราคม 2567 โดยจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม

  • Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท

พิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 16 – 26 มกราคม 2567 รับฟรี! ประกันหน้าจอ 6 เดือน พร้อมอัปเกรดความจุเป็น 12GB+512GB และ Redmi Note 13 Series Giftbox รวมมูลค่าของสมนาคุณทั้งสิ้น 9,280 บาท

  • Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท

Redmi Note 13 5G ราคา

Redmi Note 13 5G จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 13 5G ในระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 29 กุมภาพันธ์ 2567 รับฟรี Portable Bluetooth Speaker มูลค่า 690 บาท

  • Redmi Note 13 5G รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท
  • Redmi Note 13 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท

Redmi Note 13 ราคา

Redmi Note 13 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 13 ในระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 29 กุมภาพันธ์ 2567 รับฟรี Portable Bluetooth Speaker มูลค่า 690 บาท

  • Redmi Note 13 รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 6,999 บาท

About Author

nineFangKhaoW

nineFangKhaoW

Partners