Apple กำลังจะปล่อยอัปเดตตระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ทั้ง iOS 18 และ iPadOS 18 ให้ผู้ใช้ทั่วไปได้อัพเดตกันในวันที่ 17 กันยายนนี้แล้ว และเพื่อให้การอัปเดต ราบรื่น ปลอดภัย นี้ก็เป็น ขั้นตอนการเตรียม iPhone และ iPad ให้พร้อมสำหรับการไปสู่เวอร์ชั่นใหม่
1. ตรวจสอบอุปกรณ์ที่รองรับ
ก่อนจะอัปเดตเวอร์ชั่นใหม่ ก็ต้องไม่ลืมเช็คว่าเครื่องที่อยู่ในมือของคุณได้สิทธิ์ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS 18 หรือ iPadOS 18 หรือเปล่า ซึ่ง Apple ก็มีการปล่อยรายชื่ออุปกรณ์ที่จะได้ไปต่อมาแล้ว ประกอบไปด้วย
รายชื่อ iPhone ที่จะได้รับอัปเดต iOS 18
- iPhone 16
- iPhone 16 Plus
- iPhone 16 Pro
- iPhone 16 Pro Max
- iPhone 15
- iPhone 15 Plus
- iPhone 15 Pro
- iPhone 15 Pro Max
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- iPhone 13
- iPhone 13 mini
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone 12
- iPhone 12 mini
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone SE (2nd generation หรือใหม่กว่า)
รายชื่อ iPad ที่จะได้รับอัปเดต iPadOS 18
- iPad Pro (M4)
- iPad Pro 12.9-inch (3rd generation หรือใหม่กว่า)
- iPad Pro 11-inch (1st generation หรือใหม่กว่า)
- iPad Air (M2)
- iPad Air (3rd generation หรือใหม่กว่า)
- iPad (7th generation หรือใหม่กว่า)
- iPad mini (5th generation หรือใหม่กว่า)
ไปต่อหรือรอเครื่องใหม่! เช็ครายชื่อ iPhone และ iPad ที่ได้อัพ iOS 18 / iPadOS 18
นอกจากนี้ก่อนการอัพเดต iOS 18 / iPadOS 18 ผู้ใช้ก็ควรที่จะต้องอัพเดตระบบปฏิบัติการของเครื่องให้เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบัน เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาในขั้นตอนการติดตั้งเวอร์ชั่นใหม่
2. ตรวจสอบพื้นที่ความจำในเครื่อง
ก่อนการอัปเดตแต่ละครั้ง ผู้ใช้จะต้องมั่นใจว่ามีพื้นที่ความจำในเครื่องเพียงพอเพราะระบบจะต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์มาเก็บไว้ในเครื่องก่อนจะติดตั้ง ในกรณีที่พื้นที่หน่วยความจำไม่พออุปกรณ์ก็จะมีการแจ้งเตือนและจะไม่ให้เราอัพเดตอัพเดต iOS หรือ iPad เวอร์ชั่นใหม่ จนกว่าจะมีการเคลียร์พื้นที่ความจำให้เพียงพอ





วิธีการตรวจสอบพื้นที่ความจำก็ทำได้ง่าย ๆ เข้าไปที่หน้า Setting > General > iPhone Storage / iPad Storage
ระบบก็จะแสดงว่าพื้นที่ความจำในเครื่องส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับอะไร รวมถึงแอปอะไรที่ใช้พื้นที่ความจำมากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็น เกม, แอปกราฟฟิก ซึ่งถ้าเป็นเกมที่เล่นออนไลน์ แนะนำให้ลบได้เลย ไว้อัปเดตเสร็จค่อยโหลดลงเครื่องใหม่ก็ได้
3. สำรองข้อมูล (Backup) ในเครื่อง
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก่อนการอัปเดตเป็น iOS 18 / iPadOS 18 เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายหลังการอัปเดต โดยวิธีการสำรองข้อมูลก็มีทั้ง
สำรองข้อมูลบน iCloud
- ไปที่ Settings > [ชื่ออุปกรณ์] > iCloud > iCloud Backup
- เปิดสวิตช์ iCloud Backup.
- ตรวจสอบว่าได้สำรองข้อมูลล่าสุดแล้ว




สำรองข้อมูลบนคอมพิวเตอร์
- เชื่อมต่อ iPhone/iPad กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- เปิดโปรแกรม Finder (macOS) หรือ iTunes (Windows)
- เลือกอุปกรณ์ของคุณ แล้วคลิกที่ Backup Now
นอกจากการสำรองข้อมูลของอุปกรณ์แล้ว แนะนำว่าควรไปตรวจสอบตามแอปพลิเคชั่นต่างๆ ด้วย เพราะอาจจะมีบางแอปที่ไม่สามารถสำรองข้อมูลตามระบบได้ ยกตัวอย่างเช่น LINE ที่ผู้ใช้จะต้องมีการสำรองข้อมูลการแชทด้วยตนเอง เป็นต้น
4. เตรียมแบตเตอรี่ และสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้พร้อม
ในการอัปเดต iOS 18 / iPadOS 18 จะใช้เวลาค่อนข้างนาน ฉะนั้นแล้วตัวอุปกรณ์ควรจะต้องมีแบตเตอรี่มากกว่า 60% ขึ้นไป หรือไม่ก็ควรจะเสียบชาร์จไว้ในขั้นตอนการดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์
อีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องของอินเตอร์เน็ตเนื่องจากไฟล์ซอฟต์แวร์จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และใช้เวลาในการดาวน์โหลด ถ้าใครที่ไม่ได้มีแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตแบบอันลิมิเต็ดและอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณมือถือแรงๆ ก็แนะนำว่าการเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi ที่เสถียรจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
5. ช้าหน่อยไม่เป็นไร รอได้รอ
ในช่วงแรกที่มีการปล่อยเวอร์ชั่นออกมาบางครั้งระบบก็จะช้า หรือ ดาวน์โหลดนาน เนื่องจากมีผู้ใช้กดอัปเดตพร้อมกันเป็นจำนวนมาก
ถ้าไม่ได้รีบร้อนอะไรก็แนะนำให้ค่อยอัปเดตทีหลังคนอื่นก็ได้ ซึ่งนอกจากจะได้ดาวน์โหลดไวแล้ว ตัวเราเองยังมีเวลาได้เช็คผลตอบรับจากคนที่อัปเดตไปก่อนว่าได้เจอบั๊กในระบบหรือไม่ หรือมีแอปตัวไหนที่ใช้งานได้หรือใช้งานไม่ได้บน iOS/iPadOS เวอร์ชั่นใหม่