POCO F7 Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ให้ สเปกเรือธงครบครัน กล้อง 50MP ดีไซน์ IP68 ซึ่งประกอบด้วย POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro
POCO F7 Pro และ F7 Ultra มาพร้อมดีไซน์ที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด โดยมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ป้องกันทั้งฝุ่นและน้ำได้อย่างมั่นใจ
ดีไซน์ฝาหลังทั้งสองรุ่นเป็นกระจกเคลือบเงา-ด้าน โดยที่ POCO F7 Ultra ใช้ POCO Shield Glass ส่วน F7 Pro ใช้ Corning Gorilla Glass 7i ดีไซน์ด้านบนแบบไร้รอยต่อไปกับกรอบโลหะแบบด้าน
นอกจากนี้ยังมาพร้อมดีไซน์แบบแบ่งส่วนเป็นวงกลมและวงแหวนตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานรอบกล้องที่ช่วยเสริมความสมมาตร
หน้าจอทั้งคู่เป็น AMOLED 2K 6.67 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz สว่างสูงสุด 3,200 nits (HBM 1,800 nits) รองรับ HDR ใช้ Circular Polarization เพื่อแสดงผลได้อย่างเป็นธรรมชาติ, มี PWM 3840Hz (16,000 ระดับ) ถนอมสายตา ได้รับการรับรอง TÜV Rheinland Low Blue Light, Flicker Free และ Circadian Friendly โดยที่ทั้งคู่ใชัเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือบนจอแบบอัลตราโซนิก
ชิปประมวลผลของ POCO F7 Ultra เป็นชิป Snapdragon 8 Elite ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm จาก TSMC เพิ่มประสิทธิภาพ CPU ถึง 45% และ GPU 44% ลดการใช้พลังงาน 52% และ GPUvดีขึ้น 46%
มาพร้อมชิป VisionBoost D7 (12nm) รองรับเกม 120FPS, 2K Super Resolution และ Game HDR รวมถึงเทคโนโลยี WildBoost Optimization 4.0
ทางด้าน POCO F7 Pro ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 ให้สมดุลระหว่างความเร็วและประหยัดพลังงาน รองรับ WildBoost Optimization 4.0 เล่นเกมลื่น 120FPS
ทั้งคู่รัน Xiaomi HyperOS 2 ที่ผสาน HyperCore , HyperConnect, และ HyperAI ร่วมกับ Google Gemini
ส่วนแบตเตอรี่และการชาร์จ F7 Ultra ใช้ แบตเตอรี่ 5,300mAh รองรับ HyperCharge 120W เต็ม 100% ใน 34 นาที และชาร์จไร้สาย 50W ใช้ชิป POCO Surge P3 และ Surge G1 ป้องกันการเสื่อมสภาพถึง 1,600 รอบ (คงความจุ 80%)
สำหรับ F7 Pro แบตเตอรี่ 6,000mAh รองรับ HyperCharge 90Wเทคโนโลยี LiquidCool 4.0 กับ IceLoop (ท่อระบายความร้อน 5,400 มม.²) ลดอุณหภูมิ SoC ถึง 3°C เหมาะกับการใช้งานหนักยาวนาน
ส่วนการถ่ายภาพกล้องหลัง POCO F7 Ultra มี 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์ 50MP (หลัก OIS กับเซ็นเซอร์ Light Fusion 800), Telephoto 2.5x (ซูมออปติคอล), Ultrawide 32MP (120° มุมกว้าง) รองรับระยะโฟกัส 8 ระดับ (35mm, 48mm, 60mm, 120mm)
มี POCO AISP แพลตฟอร์มระบบการประมวลภาพเทคโนโลยี Computational Photography AI LM ตัวแรกจาก POCO ซึ่งผสานรวมพลังการประมวลผลของ CPU, GPU, NPU และ ISP ผ่านระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลภาพ และเมื่อผสานรวมเข้ากับเลนส์เทเลโฟโต้แบบลอยตัว ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งนี้ฟีเจอร์อย่างเช่น 20X UltraZoom Beta จะทำให้รายละเอียดที่ซับซ้อนนั้นอยู่ในโฟกัส ในขณะที่ UltraSnap นั้นรองรับการการถ่ายที่ภาพต่อเนื่องอย่างรวดเร็วและประมวลผลแต่ละภาพแบบเรียลไทม์ด้วยอัลกอริทึมที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้ได้ภาพสูงสุด 150 เฟรมด้วยความคมชัดของภาพที่สม่ำเสมอ
ทางด้าน POCO F7 Pro ก็ไม่ธรรมดามีกล้องหลังคู่ 50MP (OIS กับ Light Fusion 800) + Ultrawide 8MP ใช้ POCO AISP รองรับ Dynamic Shots และการถ่ายภาพบุคคลมุมกว้างทั้งคู่เพิ่มความสร้างสรรค์ด้วยฟีเจอร์ AI เช่น Dynamic Shots
การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
POCO F7 Ultra มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Yellow วางจำหน่ายที่ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee และ TikTok Shop โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 2568 ถึง 9 เมษายน 2568 สามารถซื้อสินค้าในราคาพิเศษได้ ดังนี้
- รุ่นความจุ 16GB + 512GB ราคาพิเศษ 22,490 บาท (จากราคาปกติ 23,990 บาท)
- รุ่นความจุ 12GB + 256GB ราคาพิเศษ 20,490 บาท (จากราคาปกติ 21,990 บาท)
- พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าบนช่องทาง mi.com รับฟรี Watch 5 Active มูลค่า 1,290 บาท18
POCO F7 Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue วางจำหน่ายที่ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee และ TikTok Shop โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 2568 ถึง 9 เมษายน 2568 สามารถซื้อสินค้าในราคาพิเศษได้ ดังนี้
- รุ่นความจุ 12GB + 512GB ราคาพิเศษ 16,490 บาท (จากราคาปกติ 17,990 บาท)
- รุ่นความจุ 12GB + 256GB ราคาพิเศษ 14,490 บาท (จากราคาปกติ 15,990 บาท)
- พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าบนช่องทาง mi.com รับฟรี Smart Band 9 Active มูลค่า 899 บาท
