iQOO Z9 Series 5G สุดยอดมือถือระดับกลางตัวคุ้มรุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอยจาก iQOO แบรนด์สมาร์ตโฟนตัวท็อป ล่าสุดก็ได้เปิดราคาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อย โดยมาด้วยกัน 2 รุ่น คือ iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G ในราคาเริ่มต้นเพียง 7,999 บาทเท่านั้น!
ซึ่งถ้าหากพูดถึงมือถือตระกูล Z Series ของทาง iQOO นั้นก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่มาแรงทีเดียว อย่างรุ่นก่อนหน้า iQOO Z7 Series 5G ก็มีกระแสตอบรับดีมาก ๆ จากบรรดา iQOOers ชาวไทยและกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยจุดแข็งของการเป็นมือถือระดับกลางที่มาพร้อมสเปกและประสิทธิภาพสุดครบครันคุ้มราคา

และตอนนี้ iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G ก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงาน mxphone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ก็ตามมาดูกันในรีวิวนี้กับเราได้เลยครับ
แกะกล่อง

สำหรับตัวกล่องของ iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G จะเป็นกล่องสีดำที่มีชื่อแบรนด์ iQOO และตัว Z ประทับไว้บนตัวกล่อง


ภายในกล่องของทั้ง 2 รุ่น ก็จะพบกับตัวเครื่องพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย หัวชาร์จ / สายชาร์จ USB-C / เคสซิลิโคนใส / ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง) / อุปกรณ์ถอดถาดซิม / คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน
ดีไซน์

iQOO Z9 5G จะมี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีเขียวบรีซ กรีน (Breeze Green) และ สีดำแฟนท่อม แบล็ค (Phantom Black) ขณะที่ iQOO Z9x 5G ก็จะมี 2 สีให้เลือกเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นสีเขียวนอร์ทเทิร์น กรีน (Northern Green) และ สีดำมิสติก แบล็ค (Mystic Black) ครับ
iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G นั้นมีดีไซน์และขนาดตัวเครื่องที่แตกต่างกัน โดย iQOO Z9 5G จะมีสัดส่วนตัวเครื่อง 163.72 × 75.88 × 7.98 มิลลิเมตร น้ำหนัก 194.6 กรัม ส่วนทางด้าน iQOO Z9x 5G มีสัดส่วนตัวเครื่อง 165.70 × 76.00 × 7.99 มิลลิเมตร น้ำหนัก 199 กรัม

iQOO Z9 5G มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1260×2800 พิกเซล (1.5K) รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz และความสว่างสูงสุด 4500nits แสดงผลได้อย่างคมชัดสีสันสดใส มองเห็นชัดเจนแม้จะอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า
ขณะที่ iQOO Z9x 5G มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด 1260×2408 พิกเซล (FHD+) รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และความสว่างสูงสุด 1000nits

บริเวณตรงกลางด้านบนหน้าจอของทั้ง 2 รุ่น จะเจาะรูสำหรับกล้องหน้าเหมือนกัน โดย iQOO Z9 5G มีกล้องหน้า 16MP (f/2.45) ส่วน iQOO Z9x 5G มีกล้องหน้า 8MP (f/2.05) พร้อมด้วยลำโพงสำหรับสนทนาที่อยู่แนบชิดติดขอบจอ

และถึงแม้ว่า iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G จะเป็นมือถือรุ่นระดับกลาง แต่ก็มีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยและดูพรีเมียมไม่ต่างจากมือถือเรือธง ด้วยฝาหลังที่ใช้เทคโนโลยีการเคลือบด้วยพื้นผิวแบบด้าน (Glitter AG) ที่ให้สัมผัสที่นุ่มนวล ทนต่อการขีดข่วน และไม่ทิ้งรอยนิ้วมือได้ง่ายครับ

โดยบริเวณด้านหลังของทั้ง 2 รุ่น จะมีความแตกต่างกันตรงที่ iQOO Z9 5G จะมีฝาหลังแบบขอบโค้งมนเล็กน้อย ส่วน iQOO Z9x 5G จะมีฝาหลังแบบเรียบแบน แต่ก็ถือจับกระชับเข้ารับกับสรีระของฝ่ามือได้ดี และใช้งานได้สะดวกสบายด้วยมือข้างเดียวเหมือนกันทั้งคู่ครับ
iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G นั้นใช้กล้องหลังชุดเดียวกัน นั่นคือ กล้องหลัก 50MP (f/1.79) + กล้อง Depth 2MP (f/2.4) พร้อมไฟแฟลช LED เหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือดีไซน์ของโมดูลกล้อง

สำหรับ iQOO Z9 5G จะมีดีไซน์โมดูลกล้องหลังแบบ Porthole อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งคล้ายกันกับของรุ่นเรือธง iQOO 12 โดยภายในพื้นที่โมดูลกล้องจะมีกล้อง 2 ตัว ส่วนไฟแฟลช LED จะเลื่อนออกไปอยู่ด้านข้างทางขวามือของโมดูลกล้อง

ขณะที่ iQOO Z9x 5G จะมีดีไซน์โมดูลกล้องหลังที่เป็นกรอบสี่เหลี่ยมขอบโค้งสีเดียวกันกับตัวเครื่อง โดยภายในพื้นที่โมดูลกล้องจะมีกล้อง 2 ตัว พร้อมด้วยไฟแฟลช LED รวมอยู่ด้วยกัน

ตัวบอดี้ของทั้ง 2 รุ่น มีขอบเครื่อง 3D แบบเหลี่ยมพิมพ์นิยม โดยขอบด้านขวาจะมีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง

ขอบด้านบนของของทั้ง 2 รุ่น จะมีไมโครโฟนเหมือนกัน แต่สำหรับ iQOO Z9 5G จะมีอินฟราเรดมาให้ด้วย

ขอบด้านล่างของ iQOO Z9 5G จะมีช่องใส่ซิมการ์ด ไมโครโฟน พอร์ต USB-C และลำโพง ขณะที่ของ iQOO Z9x 5G จะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ไมโครโฟน พอร์ต USB-C และลำโพง

ขณะที่ขอบด้านซ้ายของ iQOO Z9 5G จะเรียบ ๆ ไม่มีอะไร แต่สำหรับ iQOO Z9x 5G จะมีช่องใส่ซิมการ์ด


ซึ่งถาดซิมการ์ดของ iQOO Z9 5G จะเป็นแบบ Dual SIM ที่ใส่ได้แค่ SIM 1 + SIM 2 ไม่สามารถใส่การ์ดหน่วยความจำเสริม microSD ได้ แต่สำหรับ iQOO Z9x 5G จะเป็นแบบ Hybrid Slot ที่สามารถเลือกใส่แบบ SIM 1 + SIM 2 หรือ SIM 1 + microSD ได้นั่นเอง
ประสิทธิภาพและการใช้งาน

iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G นั้นจะรันด้วย Funtouch OS 14 เวอร์ชันล่าสุด ที่อยู่บนพื้นฐาน Android 14 ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งก็มีลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่มากมาย หน้าตา UI เน้นความเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ส่วนพวกเมนูการใช้งานหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากมือถือ Android ทั่วไปครับ


ด้านขุมพลังภายในของ iQOO Z9 5G ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 ส่วน iQOO Z9x 5G ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 6 Gen 1 ทั้ง 2 รุ่นมีหน่วยความจำ RAM 8/12GB พร้อมฟีเจอร์ขยาย RAM และ ROM 128/256GB ซึ่งก็นับว่าแรงเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานต่าง ๆ เท่าที่มือถือระดับกลางในยุคนี้จะทำได้


โดยฟีเจอร์ขยาย RAM นั้นจะสามารถเปลี่ยนพื้นที่ว่างของหน่วยความจำ ROM ที่ยังไม่ได้ใช้มาเพิ่มเป็น RAM ได้ ซึ่ง iQOO Z9 5G สามารถเพิ่มได้อีกสูงสุด 12GB ขณะที่ iQOO Z9x 5G สามารถเพิ่มได้อีกสูงสุด 8GB
ซึ่งการมี RAM สูง ๆ แน่นอนว่าจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้งานให้เป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด จะเล่นเกมหนัก ๆ หรือเปิดหลายแอปฯ พร้อมกันก็ไม่มีปัญหา



หน้าจอของ iQOO Z9 5G รองรับความละเอียด 1260×2800 พิกเซล แต่ก็สามารถปรับตั้งค่าไปที่ความละเอียด 1080×2400 พิกเซล เพื่อประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้นได้ และสามารถตั้งค่ารีเฟรชเรทได้สูงสุดที่ 144Hz
ขณะที่หน้าจอ iQOO Z9x 5G จะรองรับความละเอียด 1260×2800 พิกเซล เพียงอย่างเดียว และสามารถตั้งค่ารีเฟรชเรทได้สูงสุดที่ 120Hz


และด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ของ iQOO Z9 5G และ 6.72 นิ้ว ของ iQOO Z9x 5G จึงทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เต็มอรรถรส ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ภาพสวยคมชัด ลำโพงดังใช้ได้




ลองทดสอบการเล่นเกมต่าง ๆ หลากหลายแนวก็เล่นได้แบบสบาย ๆ โดยในเรื่องการเล่นเกม iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G จะมีฟีเจอร์ Ultra Game Mode ที่สามารถสลับระหว่างโหมด “ประหยัดแบตเตอรี่” โหมด “สมดุล” และโหมด “MONSTER” ได้ทันทีจากแถบด้านข้าง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้สนุกไปกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่



โดยสามารถตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม รวมทั้งการจัดการที่ช่วยให้ไม่ถูกขัดจังหวะจากการแจ้งเตือน หรือสายโทรเข้า เป็นต้น

และไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ใช้เพื่อความบันเทิง หรือเล่นเกม ทั้ง 2 รุ่น ก็สามารถใช้ได้อย่างยาวนานเกือบตลอดวัน ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มาแบบจุใจขนาดใหญ่ถึง 6000mAh เลยทีเดียวครับ

โดย iQOO Z9 5G จะรองรับชาร์จเร็วสูงสุด 80W ขณะที่ iQOO Z9x 5G จะรองรับชาร์จเร็วสูงสุด 44W
ส่องกล้อง

ถึงแม้จะดูเป็นมือถือสำหรับสายเกม แต่เรื่องกล้องก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G ด้วยกล้องหลัง 2 ตัว ที่เป็นกล้องหลัก 50MP (f/1.79) + กล้อง Depth 2MP (f/2.4) พร้อมทั้งกล้องหน้า 16MP (f/2.45) ของ iQOO Z9 5G และ 8MP (f/2.05) ของ iQOO Z9x 5G รวมถึงฟีเจอร์สำหรับถ่ายภาพมาให้แบบแน่น ๆ ตามสไตล์ของ iQOO






คุณสมบัติในการถ่ายภาพของทั้ง 2 รุ่น ก็มีมาครบ และค่อนข้างคล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น สแนปช็อต, กลางคืน, ภาพบุคคล, ภาพถ่าย, วิดีโอ, ความละเอียดสูง, พาโนรามา, เอกสาร, Ultra HD, สโลว์โมชั่น, ไทม์แลปส์, เปิดรับแสงนาน, ซูเปอร์มูน, โปร, โปรวิดีโอ, มุมมองคู่ และไลฟ์โฟโต้
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้งานได้ง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ส่วนเรื่องความสวยของภาพก็นับว่าทำได้ดีมาก ๆ ถ่ายจบหลังกล้องโดยไม่ต้องแต่งเพิ่มเลย

โดยเฉพาะสายเซลฟีกับโหมดถ่ายภาพบุคคล ที่มีตัวเลือกในการปรับแต่งภาพในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการปรับโทนสีผิว รูปร่างใบหน้า หรืออื่น ๆ เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
จะถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยโบเก้ ตกแต่งภาพถ่ายด้วยฟิลเตอร์ หรือแม้แต่ใครที่ไม่เก่งเรื่องการโพสต์ท่าถ่ายเซลฟี รุ่นนี้ก็มีไกด์ไลน์ท่าทางสำหรับโพสต์มาแล้วให้พร้อม

สำหรับกล้องหลัก 50MP มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างคมชัดทุกสภาพแสงส่วนกล้อง Bokeh 2MP นั้นจะช่วยให้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ตัว AI ของกล้องก็รู้สึกว่ามาช่วยเพิ่มความสามารถให้กล้องทำงานได้อย่างฉลาดมากขึ้น
จะถ่ายย้อนแสง ถ่ายที่แสงน้อย ถ่ายกลางคืน ถ่ายบุคคล หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่ใช้โหมดการถ่ายแบบอัตโนมัติยังออกมาสวยโดยแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม รวม ๆ แล้วค่อนข้างประทับใจกับเรื่องกล้องถ่ายภาพของทั้งสองรุ่นนี้มาก ๆ ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง iQOO Z9 5G







































ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง iQOO Z9x 5G





















ข้อมูลสเปก iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G

iQOO Z9 5G | iQOO Z9x 5G | |
ขนาดตัวเครื่อง | 163.72 × 75.88 × 7.98 มิลลิเมตร | 165.70 × 76.00 × 7.99 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 194.6 กรัม | 199 กรัม |
หน้าจอ | AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1260×2800 พิกเซล (1.5K) รีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz ความสว่างสูงสุด 4500nits | IPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด 1260×2408 พิกเซล (FHD+) รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 1000nits |
ชิปเซ็ต | Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 | Qualcomm Snapdragon 6 Gen 1 |
หน่วยความจำ | 12GB+256GB 8GB+256GB | 12GB+256GB 8GB+256GB 8GB+128GB |
กล้องหน้า | 16MP (f/2.45) | 8MP (f/2.05) |
กล้องหลัง | 50MP (f/1.79) + Depth 2MP (f/2.4) | |
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch OS 14 บน Android 14 | |
แบตเตอรี่ | 6000mAh / ชาร์จเร็ว 80W | 6000mAh / ชาร์จเร็ว 44W |
การเชื่อมต่อ | 5G / Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.4 / NFC / USB-C | 5G / Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.1 / NFC / USB-C |
สี | เขียวบรีซ กรีน (Breeze Green) ดำแฟนท่อม แบล็ค (Phantom Black) | เขียวนอร์ทเทิร์น กรีน (Northern Green) ดำมิสติก แบล็ค (Mystic Black) |
สรุป

โดยสรุปแล้ว iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G ทั้ง 2 รุ่นนี้ ก็คาดว่าน่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากบรรดา iQOOers ชาวไทยและกลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ต่างจาก iQOO Z7 Series 5G รุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน
ด้วยตัวสเปกที่ค่อนข้างจัดหนักจัดเต็มสวนทางกับราคาค่าตัวที่ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังมองหามือถือระดับกลางที่มาพร้อมสเปกและประสิทธิภาพสุดครบครันคุ้มราคานั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่คมชัดด ชิปเซ็ตเร็วแรงใช้งานลื่นไหล ถ่ายภาพสวยด้วยกล้องหลัก 50MP แบตเตอรี่อึดจุใจถึง 6000mAh พร้อมตัวเครื่องบางเบาดีไซน์ฝาหลังสวยสะดุดตา
ราคา และช่องทางจำหน่าย

สำหรับใครที่สนใจ iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G ก็เตรียมจับจองเพื่อเป็นเจ้าของกันได้แล้ว
iQOO Z9 5G ราคาเริ่มต้นที่ 11,499 บาท รับหูฟัง iQOO TWS 1e มูลค่า 1,299 บาทฟรี (เฉพาะลูกค้าที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 14-20 พ.ค. 2567 นี้) และ iQOO Z9x 5G ราคาเริ่มต้นที่ 7,999 บาท
โดยทั้ง 2 รุ่น จะได้รับสิทธิพิเศษ E-VIP ประกันตัวเครื่อง 2 ปี พร้อมประกันหน้าจอแตก 1 ปีแรก 1 ครั้ง ซื้อได้ทั้งทางออนไลน์ Shopee, Lazada หรือที่ vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

iQOO Z9 5G
• 12GB+256GB ราคา 12,499 บาท
• 8GB+256GB ราคา 11,499 บาท

iQOO Z9x 5G
• 12GB+256GB ราคา 9,999 บาท
• 8GB+256GB ราคา 8,999 บาท
• 8GB+128GB ราคา 7,999 บาท

นอกจากนี้ iQOOers ชาวไทย ยังสามารถใช้งาน iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G ได้อย่างมั่นใจกับบริการหลังการขายระดับพรีเมียมที่ศูนย์บริการของ vivo ทุกสาขาทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริการรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบสภาพเครื่อง อัปเดตระบบ และบริการซ่อมครบวงจร