Infinix NOTE 40 Pro+ 5G มือถือตัวท็อปสุดของตระกูล NOTE 40 Series จากทาง Infinix ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายในไทยมาได้สักระยะ ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้เป็นมือถือในงบหมื่นนิด ๆ ที่ยกระดับสเปกมาได้เกินราคาค่าตัวและน่าใช้มาก ๆ อีกหนึ่งรุ่นเลยทีเดียวครับ

โดย Infinix NOTE 40 Pro+ 5G รุ่นนี้ก็จัดเต็มทั้งสเปกและฟีเจอร์สุดครบครัน ชูไฮไลท์ด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว เร็วแรงด้วยชิปเซ็ต Dimensity 7020 ถ่ายรูปสวยด้วยกล้องหลัก 108MP รองรับชาร์จไว 100W และชาร์จแบบไร้สาย พร้อมดีไซน์ฝาหลังดูพรีเมียมสวยสะดุดตา ในราคาเปิดตัวสุดเร้าใจที่ 11,999 บาท

และตอนนี้ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงาน mxphone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากรู้ว่ารุ่นนี้จะมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ก็ตามมาดูกันในรีวิวนี้กับเราได้เลยครับ

แกะกล่อง

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G มาในกล่องสีเขียวสดใส พร้อมประทับชื่อรุ่นขนาดใหญ่ไว้บนตัวกล่องอย่างชัดเจน

ภายในกล่องก็จะพบกับตัวเครื่องพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย หัวชาร์จ 100W / สายชาร์จ USB-C / เคส / กระจกกันรอย / อุปกรณ์ถอดถาดซิม / คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน

โดยความพิเศษของรุ่นนี้คือมาพร้อมกับ Infinix MagKit ที่จะมีเคสแบบ MagCase และแผ่นชาร์จแบบแม่เหล็ก MagPad แถมมาให้ในกล่องอีกด้วยครับ

ดีไซน์

อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้นครับว่า Infinix NOTE 40 Pro+ 5G มีดีไซน์ดูพรีเมียมสวยสะดุดตา โดยเฉพาะรุ่นสีเขียว Vintage Green เครื่องนี้ ที่จะมีฝาหลังพื้นผิวคล้ายหนังสวยเรียบหรู ส่วนอีกรุ่นที่เป็นสีดำ Obsidian Black จะมีฝาหลังพื้นผิวแบบด้าน สวยแบบคลาสสิก

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G มีขนาดตัวเครื่อง 164.28 × 74.5 × 8.09 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 190 กรัม (สีเขียว Vintage Green) / 196 กรัม (สีดำ Obsidian Black)

โมดูลกล้องหลังของ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G จะมีกล้อง 3 ตัว เลนส์หลัก 108MP + Macro 2MP + Depth 2MP พร้อมด้วยไฟแฟลช LED จัดวางบนฐานกรอบทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สีบรอนซ์ทอง ซึ่งดูตัดกันกับสีเขียวของฝาหลังเครื่องได้อย่างโดดเด่นมาก ๆ ครับ

และหนึ่งในฟีเจอร์เด็ดของ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ก็คือ Active Halo ซึ่งเป็นลูกเล่นแสงไฟบริเวณตรงกลางไฟแฟลช LED ในโมดูลกล้องหลัง โดยแสงไฟนี้จะเปลี่ยนไปตามกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การรับสาย การแจ้งเตือน การชาร์จแบตเตอรี่ การเล่นเกม การฟังเพลง หรือการใช้ผู้ช่วยเสียง Folax เป็นต้น

ถัดมาที่หน้าจอของ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G เป็นจอ AMOLED LTPS แบบขอบโค้ง ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080×2346 พิกเซล (FHD+) พร้อมรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 1300nit และขอบจอสุดบางแบบแทบจะไร้ขอบ ทำให้แสดงผลได้อย่างสดใสคมชัด สีสันสมจริง สบายตา ดูหนัง ดูวีดิโอ เล่นเกม เล่นโซเชียลได้เต็มอรรถรส

บริเวณด้านบนหน้าจอจะเจาะรูสำหรับกล้องหน้า 32MP พร้อมด้วยลำโพงสำหรับสนทนาและเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่อยู่แนบชิดติดขอบจอ รวมถึงมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอบริเวณด้านล่าง

ตัวบอดี้ของ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ใช้วัสดุที่เป็นโลหะขัดเงาสีบรอนซ์ทองเหมือนกับโมดูลกล้องหลัง สวยงามแข็งแรง มีขอบโค้งมน จึงถือจับกระชับเข้ารับกับสรีระของฝ่ามือได้ดี และใช้งานได้สะดวกสบายด้วยมือข้างเดียวไม่ว่าแนวตั้งหรือแนวนอน พร้อมรองรับการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP53

โดยขอบเครื่องด้านขวาจะมีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนขอบด้านซ้ายจะเรียบ ๆ ไม่มีอะไร

ขอบด้านบนจะมีลำโพง อินฟราเรด และไมโครโฟน พร้อมประทับตราความร่วมมือด้านระบบเสียงกับทาง JBL

ขณะที่ขอบด้านล่างจะมีลำโพงอีก 1 ตัว เท่ากับว่ารุ่นนี้จะมีลำโพงคู่ที่อยู่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง พร้อมทั้งพอร์ต USB-C ไมโครโฟน และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Dual SIM ครับ

ประสิทธิภาพและการใช้งาน

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G รันด้วย XOS 14 บนระบบปฏิบัติการ Android 14 ซึ่งก็มีลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่ให้เล่นเยอะมาก หน้าตา UI เน้นความเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ส่วนพวกเมนูการใช้งานหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากมือถือฝั่ง Android ทั่วไปที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี พร้อมการันตีอัปเดตเวอร์ชัน Android ให้ 2 ปีครับ

ด้านขุมพลังภายในของรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7020 แบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz ให้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่รวดเร็ว พร้อมหน่วยความจำที่ให้มาแบบจัดหนักด้วย RAM LPDDR4X ขนาด 12GB + ฟีเจอร์ขยาย RAM ร่วมกับ Storage UFS 2.2 ขนาด 256GB ซึ่งก็นับว่าแรงเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานต่าง ๆ เท่าที่มือถืองบหมื่นต้นในยุคนี้จะทำได้

โดยฟีเจอร์ขยาย RAM นั้นจะสามารถดึงพื้นที่หน่วยความจำ Storage มาเพิ่มเป็น RAM ได้อีกสูงสุด 12GB รวมเป็น 24GB นั่นเอง ซึ่งการมี RAM สูง ๆ แน่นอนว่าจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้งานให้เป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด จะเล่นเกมหนัก ๆ หรือเปิดหลายแอปฯ หลายแอปฯ พร้อมกันก็ไม่มีปัญหา

ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ของ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เต็มอรรถรส ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ภาพสวยคมชัด สามารถปรับอัตรารีเฟรชเรทให้เหมาะสมกับเนื้อหาในการใช้งานได้โดยอัตโนมัติสูงสุดที่ 120Hz

ลองทดสอบการเล่นเกมต่าง ๆ หลากหลายแนวก็เล่นได้แบบสบาย ๆ

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G รุ่นนี้ยังมีโหมดเกมที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สนุกไปกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม รวมทั้งการจัดการที่ช่วยให้ไม่ถูกขัดจังหวะจากการแจ้งเตือน หรือสายโทรเข้า เป็นต้น

หนึ่งในจุดเด่นเรื่องไฟ Active Halo ด้านหลังตัวเครื่องนั้น สามารถปรับแต่งเอฟเฟกต์รูปแบบและสีของแสงไฟได้หลากหลาย ทั้งแบบมีชีวิตชีวา เป็นจังหวะ หรือ AI อีกทั้งยังเลือกให้แสดงตามกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การรับสาย การแจ้งเตือน การชาร์จแบตเตอรี่ การเล่นเกม การฟังเพลง หรือการใช้ผู้ช่วยเสียง Folax ได้นั่นเองครับ

และถึงแม้จะเป็นคนที่ต้องใช้งานมือถือหนักแค่ไหนก็สบายใจได้ เพราะ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ให้แบตเตอรี่มาแบบจุใจ 4600mAh และรองรับชาร์จเร็ว 100W All-Round FastCharge2.0 ซึ่งก็นับว่าเพียงพอที่จะใช้งานแบบปกติทั่วไปได้ยาว ๆ ตลอดทั้งวันอยู่แล้วครับ

นอกจากนี้เรายังสามารถปรับการตั้งค่าสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดตามความต้องการ โดยเฉพาะการชาร์จแบบบายพาสที่เมื่อเราชาร์จระหว่างเล่นเกมหรือรับชมวิดีโอ แหล่งจ่ายไฟจะเลี่ยงการจ่ายผ่านแบตเตอรี่ให้กับมือถือโดยตรง นั่นจึงทำให้ตัวเครื่องจะไม่เกิดความร้อนสูงจนเกินนั่นเอง

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G มีอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดก็คือมาพร้อมกับ Infinix MagKit ที่จะมีเคสแบบ MagCase และแผ่นชาร์จแบบแม่เหล็ก MagPad แถมมาให้แล้วในกล่อง เพื่อประสบการณ์การชาร์จไร้สายด้วยรูปแบบแม่เหล็ก ไปจนถึงยังมีฟังก์ชัน Reverse Charging ที่ช่วยให้สามารถแชร์พลังงานกับอุปกรณ์อื่น ๆ แบบมีสายหรือไร้สายด้วยความเร็วสูงสุด 10W

ส่องกล้อง

มาถึงตรงนี้ก็จะเป็นในเรื่องของการถ่ายภาพที่เรียกว่าเป็นหนึ่งในจุดเด่นเหมือนกันของ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G เอาใจสายไลฟ์สไตล์ที่ชอบถ่ายภาพและวิดีโอ จัดเต็มด้วยกล้องหลัง 3 ตัว เลนส์หลัก 108MP พร้อมกันสั่น OIS พร้อมเลนส์ Macro 2MP และเลนส์ Depth 2MP ที่ถ่ายได้ภาพได้ดีแทบทุกระยะและทั้งกลางวันหรือกลางคืน

คุณสมบัติในการถ่ายภาพก็มีครบจัดมาให้แบบแน่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น โหมดอัตโนมัติ / รูปบุคคล / ประสิทธิภาพในที่มืด / วิดีโอ / วิดีโอสั้น / วิดีโอคู่ / ภาพยนตร์ / สโลโมชั่น / ไทม์แลปส์ / SKY SHOP / มือถือชีพ / พาโนรามา / มาโคร / เอกสาร / และการปรับตั้งค่าอื่น ๆ

ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้งานได้ง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ด้วยความคมชัดกล้องหลัก 108MP ขอบอกได้เลยว่าถ่ายสวยเกินคาดจริง ๆ จะถ่ายย้อนแสง ถ่ายที่แสงน้อย ถ่ายกลางคืน ถ่ายบุคคล หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่ใช้โหมดการถ่ายแบบอัตโนมัติยังออกมาสวยโดยแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม รวม ๆ แล้วค่อนข้างประทับใจกับเรื่องกล้องถ่ายภาพของรุ่นนี้มาก ๆ ครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Infinix NOTE 40 Pro+ 5G

ข้อมูลสเปก Infinix NOTE 40 Pro+ 5G

• ขนาดตัวเครื่อง 164.28 × 74.5 × 8.09 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 190 กรัม (สีเขียว Vintage Green) / 196 กรัม (สีดำ Obsidian Black)
• หน้าจอ AMOLED LTPS ขอบโค้ง ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080×2346 พิกเซล (FHD+) รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 1300nit
• ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7020 แบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz
• RAM 12GB (LPDDR5X) + ฟีเจอร์ขยาย RAM สูงสุด 12GB
• Storage 256GB (UFS 2.2)
• กล้องหน้า 32MP, f/2.2
• กล้องหลัง 108MP OIS, f/1.75 + Macro 2MP, f/2.4 + Depth 2MP, f/2.4
• ระบบปฏิบัติการ XOS 14 บน Android 14
• แบตเตอรี่ 4600mAh, ชาร์จเร็ว 100W
• การเชื่อมต่อ 5G Dual SIM, Wi-Fi ac, Bluetooth, NFC, USB-C
• สี เขียว Vintage Green / ดำ Obsidian Black

สรุป

โดยปกติแล้วมือถือจากตระกูล NOTE Series ของ Infinix หลาย ๆ รุ่นที่ผ่านมาก็มักได้รับความนิยมอยู่แล้ว เพราะเป็นมือถือระดับกลางที่ให้สเปกจัดเต็มสมราคา และเมื่อเทียบกันกับมือถือระดับราคานี้ของคู่แข่งหลาย ๆ เจ้าก็นับว่า Infinix NOTE 40 Pro+ 5G นั้นทำได้ดีไม่ได้เป็นรองใคร

ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่ารุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับคนที่กำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ในงบหมื่นต้น ๆ ซึ่งได้ความครบครันทั้งสเปกที่เร็วแรงประสิทธิภาพดี มีดีไซน์สวยงามพรีเมียมและให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อได้สัมผัส ที่สำคัญคือเรื่องของการถ่ายภาพที่กล้าการันตีเลยว่ารุ่นนี้สามารถถ่ายได้สวยไม่แพ้มือถือระดับท็อปหลาย ๆ รุ่นในท้องตลาดเลยครับ

ราคา และช่องทางจำหน่าย

สำหรับ Infinix NOTE 40Pro+ 5G วางจำหน่ายในราคาเปิดตัวอยู่ที่ 11,999 บาท พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษ Premium Gift Box มูลค่า 1,599 บาท รวมมูลค่าของแถมสูงสุดกว่า 3,198 บาท นอกจากนี้ยังมี Infinix  NOTE 40 Pro อีกรุ่น ที่วางจำหน่ายในราคา 8,999 บาท โดยมีจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น

ตลอดจนพบโปรโมชันร้อนแรงด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 3,500 บาท เมื่อซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Shopee Mall: https://cutt.ly/vw51ivVL Laz Mall: https://cutt.ly/Ew51i6cl และ TikTok Shop: https://cutt.ly/3w51olfx และร้านค้าชั้นนำที่ BaNANA, Jaymart, IT City, TG FONE สาขาที่ร่วมรายการ

สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรม ข่าวสาร จาก Infinix ได้ที่ https://www.facebook.com/InfinixMobileThailand/

รีวิว Infinix GT 20 Pro 5G เกมมิ่งโฟนงบหมื่นต้น ดีไซน์ล้ำ สเปกแรง เล่นเกมลื่น ๆ 120 FPS
เปิดตัว Infinix GT 20 Pro 5G เกมมิ่งโฟนสเปกแรง ดีไซน์ล้ำ หน้าจอรองรับ 120 FPS ราคา 12,999 บาท
Infinix เปิดตัว NOTE 40 Series ชิปแรง ชาร์จไว สมาร์ทโฟนราคาโดนใจ สายไลฟ์สไตล์ห้ามพลาด!