HUAWEI WATCH FIT 3 สมาชิกใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์สายฟิตและแฟชันที่ทาง HUAWEI เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายในไทยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะมาสานต่อความสำเร็จจาก HUAWEI WATCH FIT 2 รุ่นก่อนหน้า ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีหลังจากเปิดตัวไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน

โดย HUAWEI WATCH FIT 3 รุ่นใหม่นี้เรียกได้ว่ามีการอัปเกรดครั้งใหญ่ ตั้งแต่งานดีไซน์ที่มาพร้อมรูปทรงสี่เหลี่ยมสไตล์ใหม่สุดอินเทรนด์ภายใต้คอนเซปต์ “Fashion Squared” มีหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่คมชัด พร้อมสเปกและฟีเจอร์แบบจัดเต็มครบเครื่องทุกเรื่องสุขภาพ รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,990 บาท เท่านั้น!

ถ้าอยากรู้ว่า HUAWEI WATCH FIT 3 รุ่นนี้จะมีทีเด็ดอะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันได้เลยครับ

แกะกล่อง

ตัวกล่องของ HUAWEI WATCH FIT 3 ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกไปจากสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์รุ่นก่อน ๆ ของ HUAWEI โดยจะมีรูปและชื่อรุ่นระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องจะประกอบด้วย ตัวเรือนสมาร์ทวอทช์พร้อมสายนาฬิกาแบบซิลิโคน สายชาร์จ คู่มือแนะนำการใช้งาน และใบรับประกัน

ดีไซน์

อย่างที่บอกเมื่อตอนต้นครับว่าดีไซน์ของ HUAWEI WATCH FIT 3 นั้นได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ โดยมาพร้อมรูปทรงสี่เหลี่ยมสไตล์ใหม่สุดอินเทรนด์ภายใต้คอนเซปต์ “Fashion Squared” ซึ่งเป็นการปรับโฉมโครงสร้างรูปทรงสี่เหลี่ยมของสมาร์ทวอทช์ตระกูล WATCH FIT จากที่เคยเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้มีความเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ดูทันสมัยมากขึ้น

โดยจะมีให้เลือกมากถึง 6 สี ได้แก่ สีดำ สีชมพู สีเขียว สีขาว ที่เป็นสายยาง และสีเทา สายไนลอน รวมทั้ง สีขาว สายหนัง

HUAWEI WATCH FIT 3 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED 2.5D ขนาด 1.82 นิ้ว ความละเอียด 480×408 พิกเซล 347 PPI ความสว่างสูงสุด 1500 nits รองรับการสัมผัสแบบเต็มหน้าจอ แสดงผลได้สุดคมชัดแม้อยู่กลางแจ้ง สีสันสดใส

โดยหน้าจอของรุ่นนี้ยังมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อนหน้าถึง 10% และมีสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 77.4% อีกด้วยครับ

ทางด้านตัวเรือนของ HUAWEI WATCH FIT 3 ใช้วัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยที่คงทนแข็งแรง น้ำหนักเบา และป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนได้ดี มีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 43.2 × 36.3 × 9.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 26 กรัม (ไม่รวมสาย)

ซึ่งนอกจากปุ่มกดแบบเดิมที่เราเคยเห็นกันในรุ่นก่อนหน้าแล้ว HUAWEI WATCH FIT 3 จะมีปุ่มควบคุมใหม่ดีไซน์ Sun-Brushed Crown โดดเด่นสะดุดตาที่เหมือนปุ่มแบบเม็ดมะยมของนาฬิกาจริง โดยสามารถกดและหมุนได้ พร้อมทำหน้าที่เป็นปุ่มฟังก์ชันสำหรับการใช้งานเมนูต่าง ๆ

ที่ด้านหลังตัวเรือนจะมีเซ็นเซอร์วัดค่าต่าง ๆ และมีขั้วสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ที่เป็นแบบแม่เหล็ก

HUAWEI WATCH FIT 3 ยังมีไมโครโฟนและลำโพงมาให้ในตัว ทำให้เราสามารถใช้คุยโทรศัพท์ ฟังเพลง หรือฟังเสียงกิจกรรมการออกกำลังได้จากบนตัวเรือนเลยนั่นเองครับ

ตัวสายนาฬิกาของ HUAWEI WATCH FIT 3 จะมีหลากหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบยาง แบบไนลอน และแบบหนัง ลักษณะการสวมใส่ก็จะเหมือนกับสายนาฬิกาปกติทั่วไป มีความกระชับสวมใส่สบายและปรับได้ตามขนาดข้อมือของผู้สวมใส่ จึงเหมาะสำหรับการใส่ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวเยอะ ๆ

นอกจากนี้ยังสามารถถอดเปลี่ยนเองได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใด ๆ เพราะเป็นดีไซน์ Link แบบกดเพื่อปลดล็อค ซึ่งสามารถถอดสายนาฬิกาออกและเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว โดยพลิกดูด้านหลังตัวเรือนบริเวณขั้วสายจะมีปุ่มเล็ก ๆ ที่เป็นขีดยาว ให้กดปุ่มนี้แล้วดึงสายออกก็เป็นอันจบ ขณะที่การใส่สายกลับก็แค่สอดขั้วสายเข้าไปให้ตรงกับช่องบนตัวเรือนแล้วดันเข้าไปจนมีเสียงคลิกเบา ๆ

ฟีเจอร์และการใช้งาน

HUAWEI WATCH FIT 3 ใช้งานง่ายด้วยไอคอนเมนูที่จัดเรียงเป็นระเบียบสวยงามแบบกระดานหมากรุก กับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS พร้อมแอปพลิเคชันให้เลือกใช้ได้อย่างสะดวกสบาย รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ มีฟีเจอร์ Always On Display (AOD) และมีหน้าปัด Watch Face ให้เลือกเปลี่ยนได้หลากหลายตามสไตล์ที่ชอบ

บรรดาฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับสายสุขภาพ HUAWEI WATCH FIT 3 ก็มีมาให้แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตามกิจกรรมประจำวัน ก้าวเดิน ระยะทาง แคลอรี่ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) การจัดการความเครียด รวมไปถึงการนอนหลับ เป็นต้น

โดยเฉพาะเทคโนโลยี HUAWEI TruSleep 4.0 ล่าสุด ยังช่วยให้การติดตามการนอนหลับแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยคุณสมบัติ Sleep Breathing Awareness ที่รองรับการรับรู้การหายใจขณะหลับ อีกทั้งยังสามารถเปิดดูค่าการนอนหลับแบบละเอียดได้บนข้อมือได้เลย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเปิดดูบนมือถือ

ในขณะที่การออกแบบที่บางเฉียบช่วยให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายตลอดทั้งวันทั้งคืน ทำให้รู้สึกแทบไม่มีน้ำหนักบนข้อมือระหว่างการนอนหลับอีกด้วย

HUAWEI WATCH FIT 3 ยังอัปเกรดคุณสมบัติด้านกีฬาอย่างครอบคลุม โดยอิงตามพฤติกรรมของผู้ใช้ 3 ด้าน ได้แก่ การกิน การเคลื่อนไหว และฟิตเนส

“การกิน” เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานมีคุณภาพการกินได้ดีขึ้น แอป Stay Fit จึงได้รับการอัปเกรดให้มีเทรนเนอร์ส่วนตัวแบบครบวงจรสำหรับควบคุมน้ำหนัก โดยนำเสนอฐานข้อมูลแคลอรี่ในอาหารทั่วโลกที่อัปเดตใน 50 ประเทศและภูมิภาค และให้การวิเคราะห์ทางโภชนาการเพื่อส่งเสริมการรับประทานอาหารที่สมดุลและแผนการออกกำลังกาย ทำให้การจัดการน้ำหนักเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น

“การเคลื่อนไหว” จะมีคำแนะนำอันชาญฉลาด สำหรับกิจกรรมในแต่ละวันหรือเป้าหมายการลดไขมัน สมาร์ทวอทช์จะแนะนำประเภทการออกกำลังกายและระยะเวลาตามนิสัยและสภาพอากาศ

เพิ่มฟีเจอร์ที่เน้นไปที่ “ฟิตเนส” โดยเพิ่มคำแนะนำด้านฟิตเนสด้วยเสียงและแอนิเมชันพิเศษในแอป HUAWEI Health ที่มีหลักสูตรการออกกำลังกายมากกว่า 660 หลักสูตร รวมถึงหลักสูตรการเผาผลาญไขมันที่ออกแบบโดย Pamela Reif ผู้มีอิทธิพลด้านฟิตเนสและไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลก

นอกจากนี้ยังสามารถทดลองโหมดกีฬาใหม่ 5 โหมดที่ขับเคลื่อนโดย HUAWEI TruSport ซึ่งรวมถึง กีฬาปาเดล อีสปอร์ต และฟุตบอล ตลอดจนโหมดกีฬามากกว่า 100 โหมด ครอบคลุมทั้งกิจกรรมในเมือง กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมทางน้ำ

HUAWEI WATCH FIT 3 สามารถติดตามค่าสุขภาพต่าง ๆ ระหว่างออกกำลังกายอย่างละเอียดและแม่นยำด้วย GPS ที่ติดตั้งมาในตัว อีกทั้งมีคุณสมบัติกันน้ำได้ที่ระดับ 5 ATM หรือความลึกประมาณ 50 เมตร จึงสามารถสวมใส่ขณะว่ายน้ำ หรือนำไปล้างคราบเหงื่อจากการออกกำลังกายได้อย่างไม่ต้องกังวล

นอกจากบรรดาฟีเจอร์ด้านสุขภาพแล้ว HUAWEI WATCH FIT 3 ก็ยังเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป โดยรองรับการสามารถเชื่อมต่อเข้าทุกอุปกรณ์บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ผ่านสัญญาณ Bluetooth 5.0 เพื่อให้ไม่พลาดทุกการติดต่อ ทั้งสายเรียกเข้า ข้อความ หรือแจ้งเตือนจากแอปฯ ต่าง ๆ ได้

นอกจากนี้ยังรองรับการเล่นเพลง เป็นชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพระยะไกล ดูสภาพอากาศ ตั้งนาฬิกาปลุก นาฬิกาจับเวลา ไฟฉาย ค้นหาโทรศัพท์ ผู้ช่วยเสียง รวมถึงการตอบกลับอย่างรวดเร็ว ครบจบทุกฟีเจอร์ในเรือนเดียวจริง ๆ

HUAWEI WATCH FIT 3 มีแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งก็สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 10 วัน หรือ 7 วัน ในสถานการณ์ใช้งานปกติ นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จไวโดยใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องอีก 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว

แน่นอนว่า HUAWEI WATCH FIT 3 จะต้องใช้งานควบคู่กับแอปพลิเคชัน HUAWEI Health เช่นเดียวกับสมาร์ทวอทช์และสมาร์ทแบนด์ของ HUAWEI เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ เพื่อการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง ซึ่งแอปฯ ดังกล่าวก็มีให้ดาวน์โหลดทั้งระบบ iOS และ Android รวมทั้งบนสมาร์ทโฟนของ HUAWEI

เพราะเมื่อเราใช้งานควบคู่กับแอปฯ แล้ว จะสามารถตั้งค่าและดูข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

สามารถเปลี่ยนหน้าปัด Watch Face เป็นรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ตามที่ต้องการ ซึ่งมีให้เลือกดาวน์โหลดใช้งานมากกว่า 10,000 แบบ และยังสามารถตั้งค่าหน้าจอให้เป็น Always On Display (AOD) ได้ด้วย

สามารถใช้เพื่อดูแลสุขภาพ ติดตามผลการออกกำลังกาย อัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาณการเผาผลาญแคลอรี่ประจำวัน ประวัติน้ำหนักขึ้นลง รวมถึงพฤติกรรมการนอนหลับ โดยรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และให้คำแนะนำได้อย่างครบวงจร

ข้อมูลสเปก HUAWEI WATCH FIT 3

• ขนาดตัวเรือน 43.2 × 36.3 × 9.9 มิลลิเมตร / น้ำหนัก 26 กรัม (ไม่รวมสาย)
• ตัวเรือนวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอย / สายนาฬิกาวัสดุยาง ไนลอน หนัง
• หน้าจอ AMOLED ขนาด 2.5D ขนาด 1.82 นิ้ว ความละเอียด 480×408 พิกเซล 347 PPI ความสว่างสูงสุด 1500 nits
• ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS
• ติดตามกิจกรรมประจำวัน ก้าวเดิน ระยะทาง แคลอรี่ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) การจัดการความเครียด รวมไปถึงการนอนหลับ
• โหมดสำหรับการออกกำลังกาย 100 โหมด
• กันน้ำได้ที่ระดับ 5 ATM หรือความลึกประมาณ 50 เมตร เป็นเวลา 10 นาที
• แบตเตอรี่ใช้งานนานสูงสุด 10 วัน หรือ 7 วัน ในสถานการณ์ใช้งานปกติ
• มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว
• สีดำ สีชมพู สีเขียว สีขาว (สายยาง) / สีเทา (สายไนลอน) / สีขาว (สายหนัง)

สรุป

ภาพรวมหลังการใช้งานจริง ส่วนตัวมองว่า HUAWEI WATCH FIT 3 เป็นสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งทีเดียว มีดีไซน์ดูทันสมัยลงตัวกับทุกแฟชั่น ขนาดกำลังดี สามารถใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย น้ำหนักเบา ใส่ทำกิจกรรมทั่วไปในชีวิตประจำวัน ใส่ออกกำลังกาย หรือใส่นอนก็ยังรู้สึกสบายไม่อึดอัด

นอกจากนี้ฟีเจอร์ที่ให้มาก็ต้องบอกว่าครบเครื่องทุกเรื่องสุขภาพจริง ๆ ช่วยให้เราทราบข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ เกี่ยวกับร่างกายของเราได้ จึงเชื่อว่า HUAWEI WATCH FIT 3 รุ่นนี้จะสามารถตอบโจทย์กับการใช้งานสำหรับทุกคนได้อย่างอย่างแน่นอน

ราคาและช่องทางจำหน่าย

HUAWEI WATCH FIT 3 สีดำ สีชมพู สีเขียว สีขาว (สายยาง) วางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท ขณะที่ สีเทา (สายไนลอน) และ สีขาว (สายหนัง) วางจำหน่ายในราคา 4,990 บาท

พร้อมรับฟรี HUAWEI FreeBuds SE 2 สีขาว มูลค่า 1,499 บาท โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2567 เป็นเจ้าของได้ที่ HUAWEI Experience Store ตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada, Shopee และ TikTok

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/wearables/watch-fit3/