รีวิว HUAWEI MatePad Air แท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยสเปคที่ครอบคลุม มีฟังค์ชั่นรองรับการทำงานกับอุปกรณ์เสริม สามารถหยิบออกมาทำงาน หรือใช้เพื่อความบันเทิงได้ทุกสถานการณ์
สารบัญ
สเปค HUAWEI MatePad Air
- สัดส่วนเครื่อง 269.89 x 178.17 x 6.4 มม. หนัก 518 กรัม
- สีที่วางจำหน่าย Graphite Black
- จอ TFT LCD (IPS) ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2800 × 1840 พิกเซล 291ppi รีเฟรทเรทสูงสุด 144Hz (ปรับได้ 30 – 144 Hz)
- ชิป Qualcomm Snapdragon 888 4G
- CPU Octa-core (1×2.84 GHz Cortex-X1 & 3×2.42 GHz Cortex-A78 & 4×1.80 GHz Cortex-A55)
- GPU Adreno 660
- RAM 8GB + ROM 256GB
- กล้องหลัง 13MP (F/1.8, AF)
- กล้องหน้า 8MP (F/2.0)
- รองรับเครือข่ายมือถือ
- 4G FDD LTE: Band 1/2/3/4/5/7/8/12/17/18/19/20/26/28
- 4G TDD LTE: Band 34/38/39/40/41
- 3G WCDMA: Band 1/2/4/5/6/8/19
- 2G GSM: Band 2/3/5/8 (850/900/1,800/1,900 MHz)
- เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง GPS/GLONASS/BeiDou/GALILEO/QZSS
- รองรับ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax, MIMO, HE160
- รองรับ Bluetooth 5.2, BLE, SBC, AAC, LDAC, L2HC HD Audio
- เซ็นเซอร์ Gravity Sensor / Hall Sensor / Ambient Light Sensor / Color temperature sensor
- 4 x ลำโพง, 4 x ไมโครโฟน
- แบตเตอรี่ 8300mAh รองรับชาร์จ 40W
- ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1
แกะกล่อง
แพ็คเกจ HUAWEI MatePad Air เป็นกล่องสีขาวทรงสี่เหลี่ยมมาตรฐาน หน้ากล่องระบุชื่อรุ่นชัดเจน ส่วนอุปกรณ์ภายในของเครื่องที่จะวางจำหน่ายจริงจะประกอบไปด้วย แท็บเล็ต, สาย USB Type-C, คู่มือการใช้งาน + ใบรับประกันสินค้า และเข็มถอดถาดซิม
พิเศษ !! สำหรับคนที่พรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 1-12 มกราคม 2567 ก็รับได้เลยฟรี UAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท, HUAWEI M-Pencil (รุ่นที่ 2) มูลค่า 4,490 บาท, HUAWEI Bluetooth Mouse มูลค่า 1,490 บาท, HUAWEI FreeBuds Pro 2 มูลค่า 6,499 บาท และ WeTV VIP 3 เดือน มูลค่า 429 บาท (100 สิทธิ์แรก)
ดีไซน์
HUAWEI MatePad Air ชูจุดขายเรื่องความ เบา บาง ตัวเครื่องเพียว ๆ จะหนาแค่ 6.4 มม. หนักเพียง 518 กรัม ใส่เคสคีย์บอร์ด บวกปากกาเพิ่มก็ยังจัดได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่พกพาง่ายไม่กินพื้นที่กระเป๋า
ตัวเครื่องวางจำหน่ายในสี Graphite Black วัสดุกระจก Ultra-Thin Glass Fibre กล้องหลังตัวเดียววางอยู่ในโมดูลทรงแคปซูลบริเวณมุมขวาบนของเครื่อง และมีแฟลชอยู่ด้านล่าง
ส่วนขอบเครื่องมีความโค้งมน โดยมีลำโพงติดตั้งมาให้ 2 คู่ รวมเป็น 4 ตัว อยู่ที่ขอบด้านบนและด้านล่างของเครื่อง ซึ่งนอกจากลำโพงแล้วบริเวณขอบเครื่องก็ยังจะมีไมโครโฟนอีก 4 จุด, ปุ่มพาวเวอร์, ปุ่มปรับระดับเสียง, พอร์ต USB Type-C, ขั้วแม่เหล็กสำหรับต่อกับคีย์บอร์ด และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด
สเปคหน้าจอเป็น IPS LCD ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 1840 พิกเซล อัตราส่วนหน้าจอ 3:2 ขอบเขตสีระดับภาพยนตร์ P3 มีความหนาแน่นพิกเซล 291ppi รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 144 Hz และสามารถปรับอัตราการรีเฟรชได้ตั้งแต่ 30Hz ถึง 144Hz โดยที่จอรุ่นนี้มีการป้องกันการเมื่อยล้าจากแสงสีฟ้าที่การันตีโดย TÜV Rheinland
ขณะที่กล้องหน้าจะจัดวางอยู่ขอบจอด้านขวาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในแนวนอน ซึ่งเป็นทิศทางที่คนส่วนใหญ่ถือเวลาใช้งานแท็บเล็ต
การใช้งาน
ขุมพลังของ HUAWEI MatePad Air ใช้ Qualcomm Snapdragon 888 4G สถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 5 นาโนเมตร ประมวลผล Octa-core กำลังสูงสุด 2.84GHz ใช้ GPU Adreno 660 รุ่นที่ขายในไทยเป็นสเปค RAM 8GB + ROM 256GB
MatePad Air รองรับการใส่ซิมทำให้สะดวกสบายหยิบมาเชื่อมต่อใช้งานได้ในทุกพื้นที่ที่มีสัญญาณมือถือ ขณะที่เสาอากาศเป็นแบบ Base Station-level และสนับสนุน Wi-Fi 6 ความเร็วสูงสุดถึง 3.6 Gbps
แท็บเล็ตมีแบตเตอรี่ขนาด 8300mAh ใช้งานรับชมวีดีโอ 1080p ได้นานต่อเนื่องถึง 12 ชั่วโมง และมีเทคโนโลยี SuperCharge 40W
สำหรับระบบปฏิบัติการเป็น HarmonyOS 3.1 ถึงแม้ว่าจะไม่มี Google Mobile Services แต่บน AppGallery ร้านค้าแอปของ HUAWEI เองก็มีแอปหลายตัวที่ครอบคลุมการทำงานส่วนใหญ่ รวมถึงแอปที่นิยมใช้งานกันในไทย หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็สามารถลง GBox เพื่อเข้าถึงบริการของ Google ได้
มาถึงเรื่องประสบการณ์การใช้งาน ในยุคสมัยที่เป็น Paperless การทำงานในหลาย ๆ องค์กรก็ลดการใช้กระดาษเน้นทำงานกับไฟล์เอกสารดิจิทัลเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่ง MatePad Air ก็ตอบโจทย์เรื่องนี้ด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างเคสคีย์บอร์ด HUAWEI Smart Magnetic Keyboard และปากกาสไตลลัส M-Pencil (รุ่นที่ 2)
ตัวเคสคีย์บอร์ดของ HUAWEI ถือว่าออกแบบมาได้ดีโดยที่สามารถปรับระดับองศาการจัดวางได้ถึง 3 ระดับ ตั้งแต่ 120-160 องศา ไล่ตั้งแต่
- Laptop Form – ฟอร์มการทำงานในรูปแบบของแล็ปท็อป
- Split Form – แยกส่วนแท็บเล็ตออกจากแป้นคีย์บอร์ดแต่ยังคงสามารถใช้พิมพ์ได้ตามปกติ
- Studio Form – ฟอร์มการทำงานแบบกดลงต่ำสุด 160 องศา ซึ่งเป็นมุมองศาที่เหมาะสำหรับการใช้ปากกาเขียนบนหน้าจอแท็บเล็ต
นอกจากปรับฟอร์มการจัดวางแท็บเล็ตให้เหมาะกับงานในรูปแบบต่าง ๆ แล้ว บนแท็บเล็ตเองก็ยังมีฟีเจอร์และแอปพลิเคชั่นติดเครื่องสำหรับทำงานเอกสาร หรือการจดบันทึกต่าง ๆ ทั้งไฟล์เอกสาร Word, Excel, Power Point หรือ PDF ก็สามารถเปิดแก้ไขได้ง่าย ๆ ผ่านบนแอป WPS
สายขีดเขียนก็สามารถทำงานได้บน HUAWEI Notes ที่สามารถเรียกใช้งานได้อย่างทันใจผ่านฟีเจอร์ Quick Notes โดยที่ตัวแท็บเล็ตมีฟังค์ชั่นการแปลงลายมือเป็นตัวอักษรด้วย HUAWEI FreeScript ขณะที่บนแอปเองก็มีทั้งฟีเจอร์ Notes Management จัดกลุ่มโน๊ตไว้ในไฟล์เดียวกัน รวมถึงปัดหมุดโฟลเดอร์ที่สำคัญ หรือใช้งานบ่อยๆ ไว้ที่ด้านบนสุดได้
ขณะที่ฟีเจอร์อย่าง Free image cropping การครอบตัดรูปภาพอย่างอิสระ และ Color Capture ฟีเจอร์ดูดสีได้จากทั้งภาพถ่ายจริงเพื่อนำมาวาดเขียนต่อกับหัวปากกาแบบต่าง ๆ ก็ยังมีให้ใช้ในแท็บเล็ตรุ่นนี้
ด้วยสเปคหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้ MatePad Air รองรับการทำงานแบบ Multi-tasking ที่สามารถแบ่งหน้าจอใช้งานได้หลาย ๆ แอปพร้อมกัน รวมถึงการเปิดแอปเดียวสองหน้าจอ และมีคุณสมบัติ HUAWEI Super Device เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ HUAWEI ด้วยการเองได้อย่างง่ายดายไร้รอยต่อ
เรื่องของความบันเทิงและการใช้งานทั่วไป HUAWEI MatePad Air มีลำโพงติดตั้งมาให้ถึง 4 ตัว พร้อมคุณสมบัติเสียง Stereo ระบบ Histen 8.0 เต็มอิ่มทั้งดูหนังฟังเพลง
ถ้าจะใช้งาน VDO Call บนแท็บเล็ตก็มีไมโครโฟนถึง 4 ตัว พร้อมกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มุมมองรับภาพ 105 องศา และมีฟีเจอร์ FollowCam ที่กล้องจะโฟกัสเพื่อจัดเฟรมตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน ขณะที่กล้องหลังให้มา 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ถ่ายภาพเอกสาร หรือถ่ายเรฟเฟอเร้นท์เพื่อเป็นไอเดียในการทำงาน
ในส่วนของการเล่นเกมจากที่ทดสอบด้วย PUBG Mobile ก็สามารถเล่นได้ลื่น ๆ ในระดับกราฟฟิกได้สูงสุด Ultra HD และรีเฟรชเรทระดับสูงสุด ขณะที่ประสิทธิภาพการประมวลผลเมื่อทดสอบบนแพลตฟอร์ม AnTuTu Benchmark V10 ทำไปได้ 822768 คะแนน
สรุป+ราคา
HUAWEI MatePad Air จัดว่าเป็นแท็บเล็ตระดับกลางที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย คุ้มค่าคุ้มราคา และเป็นแท็บเล็ตที่น่าใช้งาน ถ้าคุณเป็นคนไม่ซีเรียสเรื่องการที่จะต้องปรับตัวเพื่อทำงานต่าง ๆ ด้วยอุปกรณ์ที่ไม่มี GMS
ปิดท้ายด้วยเรื่องราคา HUAWEI MatePad Air (8+256GB LTE) ในราคาเพียง 22,990 บาท พิเศษ !! เมื่อพรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 1-12 มกราคม 2567 รับฟรีทันที HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท HUAWEI M-Pencil (รุ่นที่ 2) มูลค่า 4,490 บาท HUAWEI Bluetooth Mouse มูลค่า 1,490 บาท HUAWEI FreeBuds Pro 2 มูลค่า 6,499 บาท และ WeTV VIP 3 เดือน มูลค่า 429 บาท (100 สิทธิ์แรก)
สิ่งที่สำคัญคือสินค้า HUAWEI เข้าร่วมโครงการ “Easy E-Receipt 2024” เป็นที่เรียบร้อย โดยช้อปสูงสุด 50,000 บาท รับคืนสูงสุด 17,500 บาท ใครที่สนใจไปกดสั่งซื้อกันได้ทางได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada และ Shopee
WETV คัด 3 ซีรีส์ดัง มอบสิทธิ์ VIP ดูแบบจุใจ ไม่มีโฆษณาคั่น สำหรับลูกค้า HUAWEI MATEPAD AIR
