รีวิว HUAWEI FreeBuds SE 2 หูฟังระดับเริ่มต้นที่มากับน้ำหนักเบาใส่สบายสไตล์กึ่งอินเอียร์ (Semi-in-ear) พร้อมแบตเตอรี่อึด ในราคาจับต้องง่ายแค่ 1,499 บาท
สารบัญ
สเปค HUAWEI FreeBuds SE 2
- ขนาด
- หูฟัง : 33.66 × 17.83 × 18.13 มม. หนักข้างละ 3.8 กรัม มีมาตรฐานกันน้ำ IP54
- เคสชาร์จ : 50.40 × 50.31 × 23.40 มม. หนัก 33 กรัม
- วัสดุหูฟังและเคสชาร์จ Polycarbonate (PC)
- สีที่วางจำหน่าย Isle Blue / Ceramic White
- ไดร์เวอร์หูฟังแบบไดนามิก 10.0 มม.
- เทคโนโลยีเสียง Call noise cancellation / Multi-EQ
- ระบบควบคุมแบบสัมผัส
- เซ็นเซอร์ Hall effect sensor/ Touch sensor
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3
- รองรับแปลงไฟล์ SBC และ AAC
- แบตเตอรี่
- หูฟัง 41mAh ฟังเพลงได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง
- เคสชาร์จ 510mAh ใช้งานร่วมกับหูฟังได้นานสูงสุด 40 ชั่วโมง
แพ็คเกจ + ดีไซน์
หูฟังมากับแพ็คเกจขนาดกะทัดรัดโดยเป็นกล่องสีขาว ด้านหน้ามีภาพหูฟัง กับชื่อรุ่นชัดเจน ด้านหลังมีสเปคไฮไลท์แบบคราว ๆ ส่วนอุปกรณ์ภายในประกอบด้วย หูฟัง HUAWEI FreeBuds SE 2, เคสชาร์จ, คู่มือการใช้งานฉบับย่อและข้อมูลด้านความปลอดภัย, ใบรับประกัน, สายชาร์จ USB-C



HUAWEI FreeBuds SE 2ตัวหูฟังถูกออกแบบการสวมใส่ให้เป็นแบบ กึ่งอินเอียร์ (Semi-in ear) คือเป็นหูฟังแบบใส่เข้าไปในหูแต่ไม่ได้อุดแน่นแบบอินเอียร์ ทำให้สวมใส่สบาย มีพื้นที่ให้อากาศไหลเวียน และยังเป็นการลดแรงกดภายในรูหู เหมาะแก่การสวมใส่เป็นเวลานาน ๆ

ถึงแม้ว่าในรุ่นนี้ได้ตัดส่วนที่เป็นจุกหูฟังซิลิโคนออกไปแต่หูฟังก็ได้ผ่านการออกแบบมาอย่างพิธีพิถันตามหลักสรีรศาสตร์ทำให้สวมใส่ได้พอดีกับรูหูของผู้ใช้ โดยที่แต่ละข้างหนักแค่ 3.5 กรัมเท่านั้น พร้อมทั้งมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 เอาไปใส่ออกกำลังกายได้สบาย ๆ ไม่ต้องกลัวเหงื่อ กลัวฝน เป็นอีกจุดที่อัพเกรดจากรุ่นก่อนที่รองรับแค่ IPX4




บริเวณก้านหูฟังทั้งสองข้างมีช่องไมโครโฟนข้างละสองจุด โดยที่ตัวก้านเองก็มีเซ็นเซอร์รองรับการสั่งงานแบบสัมผัส สำหรับส่วนปลายก็มีไมโครโฟนและขั้วสำหรับเชื่อมต่อกับตัวเคสชาร์จ

สำหรับตัวเคสชาร์จเองก็ปรับดีไซน์จากรุ่นแรกที่เป็นทรงแคปซูลมาเป็นตลับทรงสี่เหลี่ยม บริเวณใกล้ ๆ กับฐานเคสจะมีไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน พอร์ต USB-C สำหรับชาร์จไฟอยู่ด้านล่าง สีที่วางจำหน่ายมี ฟ้า Isle Blue กับ ขาว Ceramic White ซึ่งเป็นสีที่อยู่ในมือของเราตอนนี้



การใช้งาน
หูฟังHUAWEI FreeBuds SE 2 มาพร้อมสเปคการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.3 รองรับทั้งกับอุปกรณ์ที่เป็น HarmonyOS, Android, iOS และ อื่น ๆ แต่สำหรับใครที่ใช้ HarmonyOS ก็จะพิเศษหน่อยเพราะมี Pop-Up & Pair ซึ่งรองรับกับอุปกรณ์ที่เป็น EMUI10 ขึ้นไป

ดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า FreeBuds SE รุ่นใหม่ ยังคงมีระบบการควบคุมหูฟังด้วยการสัมผัสอาทิเช่น แตะสองครั้งเพื่อหยุด-เล่นเพลง หรือรับ-วางสาย รวมถึงการสั่งเล่นเพลงถัดไป-ก่อนหน้า ซึ่งการตั้งค่าคำสั่งและการดูปริมาณแบตเตอรี่บนเคสกับหูฟังสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชั่น AI Life




ด้านแบตเตอรี่ FreeBuds SE 2 จัดว่าตอบโจทย์คนที่ต้องใช้งานหูฟังเป็นเวลานาน ซึ่งเฉพาะตัวหูฟังเองก็ใช้งานฟังเพลงได้นานต่อเนื่องสูงสุด 9 ชั่วโมง และเมื่อใช่ร่วมกับเคสก็อยู่ได้ยาว ๆ 40 ชั่วโมง เพิ่มจากรุ่นแรกมาเกือบเท่าตัว แถมยังมีชาร์จไว ชาร์จแค่ 10 นาที ก็ใช้ได้นาน 3 ชั่วโมง

ในมุมการใช้งานเริ่มจากการสวมใส่กันก่อน ส่วนตัวแล้วผู้เขียนจะมีหูฟังที่ใช้ประจำเป็นแบบ In-Ear ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือต้องการฟีลลิ่งการสวมใส่ที่กระชับ พร้อมกับตัดเสียงรบกวนไปได้ในตัว แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือเมื่อใส่ไปนาน ๆ จะมีอาการหูล้า และรู้สึกอับชื้นภายในช่องหู

แต่สำหรับ FreeBuds SE 2 ที่เป็น Semi-In ear แม้ว่าฟีลลิ่งเวลาอยู่ในหูจะไม่ได้รู้สึกกระชับแน่นแบบ In-ear แต่จากที่ทดลองใส่ทำกิจกรรมต่าง ๆ มาก็พบว่าตัวหูฟังก็ไม่ได้หลุดออกจากหูง่าย ๆ ด้วยการออกแบบที่ตรงตามสรีรศาสตร์ให้หูฟังเกี่่ยวล็อคเข้ากับรูหูได้พอดี แถมยังมีพื้นที่ให้เกิดอากาศไหลเวียนภายในช่องหู


สำหรับคุณภาพเสียงด้วยไดร์เวอร์หูฟังแบบไดนามิก 10 มม. ต้องยอมรับว่า FreeBuds SE 2 มีปรับแต่งเสียงมาเป็นอย่างดี เวทีเสียงค่อนข้างกว้างแยกทิศทาง ซ้าย-ขวา รวมถึงเก็บเสียงเครื่องดนตรีได้ชัดเจน ในส่วนเสียงย่านกลางชัดเจน แหลมไม่บาดหู เบสไม่หนักมาก นับเป็นหูฟังที่ฟังสนุกเหมาะกับแนวเพลง Pop หรือ R&B ขณะที่ในแอป AI Life ก็มีฟีเจอร์พรีเซ็ต EQ ให้เลือกเพิ่มย่านเสียงที่ต้องการได้อีกเล็กน้อย

สรุป+ราคา
ตามความเห็นหลังจากที่ได้ รีวิว มา FreeBuds SE 2 เป็นหูฟังแบบ TWS ที่ราคาจับต้องง่าย สวมใส่สบาย เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ดูหนังก็ดี ฟังเพลงก็เพลิน แถมยังใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลากหลายระบบปฏิบัติการ

สำหรับราคา HUAWEI FreeBuds SE 2 อยู่ที่ 1,499 บาท พิเศษ !! ดีลเด็ดออนไลน์ 9.9 ในราคาสบายกระเป๋าเพียง 799 บาท และรับฟรีกระเป๋า Storage Bag มูลค่า 470 บาท เมื่อสั่งซื้อในวันที่ 9 กันยายน 2566 ที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee ตามลิงค์นี้เลย : https://bit.ly/44uP6ql