M talk by mchaw ตอน อินเตอร์เน็ต ภัยร้ายใกล้ตัว

โดย mchaw | 24 พฤศจิกายน 2550 เมื่อ 10:17 น. | อ่าน 251
จากคอลัมน์ M talk by mchaw นิตยสาร Mobile Mag เดือน ตค.07


สวัสดีคุณผู้อ่านกันอีกเช่นเคย มาพบกับผม นาย mchaw ที่มีคอลัมน์นี้ที่เราพบกันเป็นประจำทุกเดือน หากเดือนไหนไม่ได้เขียนมา ก็รู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง  ก็ได้แต่หวังว่าคอลัมน์นี้ คงจะมีสาระ ความรู้ ความบันเทิง บ้างเล็กน้อยให้กับคุณผู้อ่านบ้าง จะได้ไม่เป็นการเสียเวลาอ่านไปฟรีๆครับ


 


นี่ก็ใกล้จะสิ้นปีอีกแล้ว เผลอไปไม่นาน เดี๋ยวก็จะมีเทศกาลปีใหม่ ซึ่งหลายคนก็ตั้งใจว่าจะได้ไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ  บ้างก็ไปต่างประเทศ บ้างก็ในประเทศ อันนี้จะมาเหมาว่าคนไทยต้องเที่ยวไทยอย่างเดียว หากไม่เที่ยวไทย แสดงว่าเป็นคนที่ไม่รักบ้านเกิดเมืองนอนก็ไม่ถูกเท่าไรครับ  ที่ผมกล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่ามีประสบการณ์ในการไปท่องเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงเทศกาลวันแม่เมื่อปีก่อน ก็คือที่ทะเลหัวหิน ต้องยอมรับว่า ในเทศกาลนั้นห้องพักโรงแรมนี่ราคาแพงมหาโหดทีเดียว  และหากไม่พักก็มีคนอื่นมาพักเต็ม ห้องพักดรงแรมระดับ 3 ดาว ก็อยู่ในราคา 3 พันขึ้น  หากขยับขึ้นเป็น 4-5 ดาว ก็สูงในระดับ 7 พันขึ้น อย่างน้อยเราก็ต้องพัก 2 คืน ค่าใช้จ่ายเป็นหมื่นต่อห้องต่อ2 คืน  จนบางครั้งแทบจะอดคิดไปไม่ได้ว่า นี่เราเพิ่มเงินอีกนิดหน่อย เราก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศใกล้เมืองไทยอย่างฮ่องกง หรือสิงคโปร์ได้เลยนะนี่ ไหนยังจะต้องมาแย่งกันรับประทานอาหาร ยังร้านที่เป็นที่นิยม แย่งกันไปเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และยังต้องฝ่าฟันกับสภาพการจราจรที่แสนโหดร้ายด้วยเพราะเส้นทางที่มุ่งไปและกลับนั้น ไม่มีทางเลี่ยง มีแต่รถทั้งรถเล็กและรถใหญ่ บางช่วงก็มีการทำถนน แถมยังมีรถโดยสาร รถสิบล้อ หรือบรรทุกใหญ่ ที่เราไม่รู้ว่าคนขับเขาได้พักผ่อนมากน้อยเพียงใด มาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์บนเส้นทางทั้งขาไปและขากลับ อุบัติเหตุก็มีให้พบเห็นตามรายทางแทบจะทุกช่วงของเส้นทาง บ้างก็ลงมาโวยวาย บ้างก็เซ็งอารมณ์แทนที่จะได้ไปเที่ยวก็มาหัวเสียกับอุบัติเหตุ ต้องลากรถกลับไปซ่อม หรือบ้างก็รถเสียกลางค่ำกลางคืน  หากมีโอกาสเลือกได้ ผมอยากจะเลือกไปเที่ยวในวันธรรมดาที่เขาไม่เที่ยวกันครับ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะโอกาสที่จะได้ไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตาก็คือวันหยุดนักขัตฤกษ์ นี่เอง ดังนั้น ใครที่สามารถเพิ่มงบได้ จะเดินทางบไปต่างประเทศ ผมก็ว่าไม่แปลกครับ จะได้ไม่ต้องมาเบียดเสียดยัดเยียดกันบนถนนเพิ่มปัญหาให้มากขึ้น  แต่เนื่องจากผมเองก็ยังไม่ได้มีงบขนาดนั้น จึงยังต้องจำทนร่วมทุกข์เพื่อเที่ยวกับพี่ๆน้องๆหลายท่านในที่นี้ด้วยเช่นกัน


 


พล่ามอะไรมาอีกเรื่อยเปื่อย จนเดี๋ยวคุณผู้อ่านจะเหม็นหน้าเสียก่อน กลับเข้าสู่แวดวงเทคโนโลยีไร้สายกันสักหน่อยครับ  ช่วงนี้กระแสอินเตอร์เน็ตมาแรงจริงๆนะครับ เมื่อก่อน มองว่าอินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องไกลตัว เดี๋ยวนี้กลายเป็นของสามัญประจำบ้านไปแล้ว แต่ก่อนเราจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ก็ต้องติดตั้งโปรแกรมพร้อมหาการ์ดLAN มาเชื่อมต่อ โดยผ่านสายโทรศัพท์ จะใช้ทีก็ต้องหมุนหมายเลขเข้าระบบซึ่งอย่างน้อยๆก็เสียค่าโทรครั้งละ3 บาท และยังต้องจ่ายค่าบริการเป็นรายชั่วโมง  ก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งเป็นระบบ ADSL (หรือที่เรียกว่าอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง)ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ แถมยัง ใช้งานโทรศัพท์บ้านได้ในขณะเล่นเน็ตอีกต่างหาก ค่าบริการที่เคยเรือนหมื่น ก็ลงมาในระดับร้อย ทำให้หลายบ้านติดตั้ง ADSL ใช้งาน ยังไม่พอ ไหนๆก็มี ADSL แล้ว แต่ละบ้านก็ใช้งานคนเดียวซะที่ไหนกัน ก็ต้องแชร์กัน แรกๆก็ใช้สาย LAN สำหรับแชร์อินเตอร์เน็ต ต่อมาก็ไม่สะดวก ก็ต้องาตัวแยกมาเป็น Router เพื่อที่จะเสียบสายสัญญาณได้หลายๆตัว ไปยังหลายเครื่อง ก็ยังสะดวกไม่พอ ก็ต้องมีการขยับขยายเป็นระบบไร้สาย ที่สามารถจะใช้งานอินเตอร์เน็ตร่วมกันได้ หลายๆเครื่องพร้อมกัน ซึ่งสมัยนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค ก็เป็นที่นิยมสามารถจะเคลื่อนย้ายไปใช้งานได้หลายที่ ไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในบ้านอย่างเดียว เอาขึ้นไปบนห้องนอนก็ได้ หรือเชื่อว่าบางท่านเข้าห้องน้ำก็เอาไปใช้ด้วยก็มี อย่างนี้ก็ต้องหาซื้อตัวกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย ครอบคลุมตัวบ้านทั้งชั้นล่างและชั้นบน ทำให้ใช้ได้สะดวก เดินทางไปข้างนอกบ้าน ก็มีจุดให้บริการอินเตอร์เน็ตแบบนี้ที่เรียกว่า HotSpot ของค่ายอินเตอร์เน็ตต่างๆให้บริการอยู่แต่ต้องซื้อการ์ดเป็นชั่วโมง ผมลองใช้งานต้องซื้อ 450 บาท เล่นได้ 3 ชั่วโมง ราคาค่าซื้อความสะดวกก็ยังคงแพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ  บางท่านก็หาทางออกโดยการใช้งานร่วมกับเทคโนดลยีการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือเสียเลย  เพราะตอนนี้หลายค่ายก็ออกมาโปรโมทว่าความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของตนนั้นสูงมาก โดยใช้เทคโนโลยี EDGE หรืออย่างค่าย CDMA ก็มี EVDO ซึ่งคุยว่าความเร็วเหนือกว่าอีก และก็ออกมาส่งเสริมการขายด้วยโปรโมชั่นต่างๆ เช่น มีซิมสำหรับท่องเน็ตโดยเฉพาะ เสียรายเดือน 99 บาทบ้าง หรือ 199 บ้าง ท่องเน็ตได้เดือนละเท่านั้น เท่านี้ชั่วโมง หรือเหมาไปเลยใช้ทั้งเดือนแบบไม่จำกัด ก็ 999 บาท อะไรทำนองนี้ ซึ่งข้อดีของการใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบนี้คือ เราสามารถใช้งานได้ในทุกที่ ที่มีเครือข่ายโทรศัพท์มือถือนั้นๆอยู่ เช่น อยู่บ้าน เราก็ต่อโทรศัพท์เข้ากับ เครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยอาศัยเทคโนโลยีอย่าง บลูทูธ หรือจะเสียบสายดาต้าก็ได้  นอกจากนี้ยังมีการ์ดที่เสียบข้างเครื่องโน๊ตบุ๊ค แล้วใส่ซิมได้ ก็เล่นได้เช่นกัน จากนั้นก็เล่นเน็ตได้เลย ไปต่างสถานที่ เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือเสนองานลูกค้า ก็สามารถเชื่อมต่อได้ทันที ไม่ต้องไปเสียเวลาหาอินเตอร์เน็ตที่ไหนใช้งาน  แต่ข้อด้อยคือ สัญญาณอินเตอร์เน็ต และค่าความแรง หรือความเสถียรในแบบใช้ช่องสัญญาณมือถือนั้น ต่ำกว่าแบบใช้สายแน่นอน บางช่วงอาจจะเร็วมาก บางช่วงอาจติดขัด โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีการใช้งานโทรศัพท์  และหากเราต้องใช้หมายเลขนั้นในการโทรด้วยแล้วก็ไม่สะดวกแน่นอน   และในหลายครั้งการที่โทรศัพท์เชื่อมกับคอมพิวเตอร์เล่นเน็ต ก็ทำให้เปลืองแบตโทรศัพท์มากกว่าปกติ เมื่อต้องการโทรใช้งานก็แบตหมด คราวนี้เสียงานเสียการไปใหญ่เลยครับ แถมยังมีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่สูงกว่าในแบบ ADSL อยู่พอควรทีเดียว ดังนั้น ในการใช้งานก็ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้งานให้ดีครับ


 


กลับมาสู่การใช้งานในโลกไซเบอร์ หรืออินเตอร์เน็ตสักหน่อย ใครที่เป็นผู้ปกครองมีเด็กในความปกครองที่เล่นอินเตอร์เน็ต ก็อยากให้ระวังๆกันหน่อยนะครับ ข่าวคราวที่ได้ยินมาก็ไม่ดีเยอะอย่างประเภทวายร้าย ที่แฝงกายมาในคราบสุภาพบุรุษผู้ใจดี คุยผ่านโปรแกรมแชตกับหญิงสาว ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ล่อลวงไปพบกันข้างนอก แล้วพาไปทำมิดีมิร้าย หรือลักขโมยของเหยื่อก็มีให้เห็นบ่อยๆ หรือหลอกขายของที่น่าสนใจอย่างมือถือรุ่นใหม่ในราคาถูกกว่าท้องตลาด อ้างว่าเป็นของนำเข้ามาเอง แต่ต้องวางมัดจำเพื่อไปนำของออกมาให้  โดยให้โอนเงินทางบัญชีธนาคาร ไปมัดจำรายละ 500-1,000 แล้วก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย เบอร์มือถือที่เคยติดต่อได้ ก็ปิดหนีไปเสียอย่างนั้น ก็เพราะว่า เดี๋ยวนี้เบอร์โทรนั้นถูกมาก และหาง่ายจริงๆ เพราะแต่ละค่ายไล่แจกกันเป็นว่าเล่น หรือหากต้องซื้อก็ในราคาหลักสิบบาทก็มีเบอร์ได้แล้ว ทำให้มิจฉาชีพสามารถลงทุนเพียงเล็กน้อยก็สามารถหลอกคนได้จำนวนมาก ใครที่ไม่เคยโดนอาจจะคิดว่า ฉันไม่โดนหลอกง่ายๆหรอก เพราะฉันรู้ทันหมด อันที่จริงแล้วผู้ที่โดนๆมาทั้งหลายนั้นมักจะบอกว่า วายร้ายพวกนี้มีวิธีการพูดโน้มน้าวใจ ให้เราเชื่อได้อย่างง่ายดาย มีการยกตัวอย่างมาอ้าง ดัดเสียงในโทรศัพท์ว่าเป็นคนนั้นคนนี้ที่มีชื่อเสียงโทรมาก็มีครับ


 


นอกจากนี้ที่ต้องระวังๆกันไว้ก็คือการซื้อของผ่านทางเน็ตโดยการให้ตัดบัญชีบัตรเครดิต อันนี้เจอกันมามากต่อมากแล้ว วันดีคืนดีก็มีรายการทางบัตรเครดิตในสิ่งที่เราไม่ได้ใช้โผล่มาเก็บตอนสิ้นงวด ต้องเสียเวลาไปแจ้งความทำเรื่องกับทางธนาคารให้คืนเงินที่เราไม่ได้ใช้งานซึ่งก็ทำให้เสียเวลา ค่าใช้จ่าย และแบงค์แบงค์แบงค์เองก็สูญเสียประโยชน์ไปมากมาย  โดยพวกนี้บางทีโผล่มาในลักษณะของสปายแวร์ ที่แอบเข้มาในเข้มาในเข้มาในเครื่องคอมพิวเตอร์เรา แล้วเมื่อไรไรไรที่เราใส่ข้อมูลเลขบัญชี เลขบัตรเครดิต เจ้าสปายสปายสปายแวร์เหล่านี้ก็พร้อมที่จะนำรหัสเหล่านั้นส่งไปให้ยังเจ้าของสปายแวร์นั้นๆ เพื่อนำข้อมูลไปซื้อหา จ่ายของโดยใช้บัญชีเราโดยเราไม่รู้ตัว   มีอีกประเภท ก็อีเมล์ที่มาจากธนาคาร อยู่ๆก็โผล่มาว่าอยากให้ตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำหน้าเพจเพจเพจให้เหมือนกับของธนาคาร หลอกให้เรากรอกข้อมูลที่เป็นความลับไป จากนั้นเขาก็นำข้อมูลไปใช้โอนเงินได้อย่างสบาย แบบนี้ก็ยิ่งต้องระวังให้มากยิ่งขึ้นครับ  อย่างน้อยๆใครที่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้านและใช้อินเตอร์เน็ตเป็นประจำ  ก็อยากแนะนำให้หาโปรแกรมป้องกันไวรัสมาใช้งานและหมั่นที่จะอัพเดทอัพเดทอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสบ่อยๆและให้ดีก็ควรแสกนไวรัสในเครื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ก็จะช่วยให้เครื่องคุณปลอดจากไวรัส วายร้ายพวกนี้ได้ดียิ่งขึ้นครับ


 


เอาละครับ เรื่องราวของอินเตอร์เน็ตก็ขอเอวังด้วยประการฉะนี้ หากท่านใดมีข้อสงสัย อยากติชม หรืออยากซักถาม หรือทักทายกัน ก็อีเมล์มายัง [email protected] นะครับ ฉบับนี้ขออนุญาตไปแสกนไวรัสก่อน พบกันใหม่ในฉบับหน้า ขอบุญรักษาคุณผู้อ่านครับ



About Author

mchaw

mchaw

Partners