นอร์เทล ย้ำความเป็นผู้นำตลาด VoIP ทั่วโลก ครองแชมป์ตลาดโทรศัพท์ไอพีระดับองค์กร และผู้ให้บริการ VoIP

เดลล์ โอโร กรุ๊ป รายงานว่า นอร์เทลยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งทั่วโลกในตลาดผู้ให้บริการเทคโนโลยีเครือข่ายการสื่อสารแห่งยุคอนาคต (Next Generation Network – NGN) ซึ่งเติบโต 55% ในปี 2548 โดยนอร์เทลมีส่วนแบ่งในตลาดผู้ให้บริการโทรศัพท์ไอพี 21.5% ในปี 2548 และ 26% ในไตรมาสที่ 4 ปีเดียวกัน ทั้งยังมีรายได้แซงหน้าคู่แข่งถึง 2 เท่าในไตรมาสที่ 4 โดยเดลล์ โอโร กรุ๊ป ได้จัดอันดับนอร์เทลvให้เป็นผู้นำในด้านการจัดส่งโซลูชั่นโทรศัพท์ไอพีระดับองค์กร ด้วยส่วนแบ่ง 23.3% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2548

ซินเนอร์จี รีเสิร์ช กรุ๊ป รายงานว่านอร์เทลครองความเป็นเจ้าตลาดผู้ให้บริการ VoIP ทั่วโลกในปี 2548
ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 19% จากรายได้รวมทั้งหมด และส่วนแบ่งการตลาดจากการยอดการจัดส่งพอร์ท 18% นอกจากนี้ในปี 2548 นอร์เทลยังคงเป็นผู้นำในตลาดผู้ให้บริการซอฟท์สวิตช์และพอร์ทสื่อต่างๆ รวมถึง VoIP และ การส่งข้อมูลเสียงผ่านเกทเวย์เอทีเอ็ม (voice over ATM gateway)

“จากรายงานด้านส่วนแบ่งตลาดในไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2548 ชี้ให้เห็นว่า นอร์เทลมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดผู้ให้บริการ VoIP” มร. เจอเรมี ดุ๊ค ประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซินเนอร์จี รีเสิร์ช กรุ๊ป กล่าวและเสริมว่า “ในฐานะที่นอร์เทลเป็นผู้ให้บริการด้านโทรศัพท์และเครือข่ายเคเบิลรายใหญ่ที่สุดของโลก เราเล็งเห็นว่านอร์เทลมีความพร้อมที่จะขยายไปสู่บริการด้านการสื่อสารด้วยเสียงและไอพีvให้กับผู้ให้บริการ ด้วยการมีวิสัยทัศน์ที่ดี และลงทุนในด้านวีโอไอพีที่รวดเร็วกว่าผู้ค้าสวิตช์รายอื่นๆ ส่งผลให้นอร์เทลสามารถให้บริการได้รุดหน้ากว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ”

ระบบ VoIP ของนอร์เทลได้รับการออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นระบบ IMS ได้โดยง่าย โดยใช้เซิร์ฟเวอร์การสื่อสารของนอร์เทลควบคุมการโทรระบบ SIP และระบบไอพีมัลติมีเดีย สำหรับโซลูชั่น IMS เป็นโซลูชั่นแบบเปิดที่นอร์เทลออกแบบและคิดค้นให้กับผู้ให้บริการสื่อสาร โดยพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี VoIP และมัลติมีเดีย และมีสมรรถนะรองรับระบบมัลติมีเดีย SIP ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถ
ในการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นและบริการของพันธมิตรที่สนับสนุนเทคโนโลยี IMS

อินโฟเนติคส์ระบุว่า นอร์เทลมีส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์ซอฟท์สวิตช์และทรั้งค์เกทเวย์ให้แก่ผู้ให้บริการสื่อสารทั่วโลกคิดเป็นสัดส่วน 23% ประจำปี 2548 และ 26% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2548
ทั้งยังประกาศให้นอร์เทลเป็นผู้นำระดับโลกทางด้านการจัดส่งระบบโทรศัพท์ระดับองค์กรในปี 2548 และไตรมาส 4 ของปีเดียวกัน โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 19% นอกจากนี้ นอร์เทลยังขึ้นแท่นผู้นำทางด้านการ
จัดส่งระบบโทรศัพท์ระดับองค์กรในภูมิภาคอเมริกาเหนือในปี 2548 และในไตรมาส 4 ด้วยส่วนแบ่ง 26%

มร. แมธเธียส แมคโควินสกี้ นักวิเคราะห์ระบบการสื่อสารด้วยเสียงและข้อมูลระดับองค์กร บริษัท
อินโฟเนติคส์ รีเสิร์ช กล่าวว่า “รายงานเรื่องระบบโทรศัพท์ระดับองค์กรประจำไตรมาสที่ 4 ประกาศยกย่อง

นอร์เทลให้เป็นผู้นำระดับโลกและภูมิภาคอเมริกาเหนือทางด้านการจัดส่งระบบโทรศัพท์ในปี 2548 และในไตรมาสที่ 4 ของปี 2548” และเสริมว่า “ระบบ PBX ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ สนับสนุนเทคโนโลยี VoIP และด้วยผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายการสื่อสารด้วยเสียงและข้อมูลอย่างครบวงจร ทำให้นอร์เทล
เป็นหนึ่งในบริษัทสื่อสารเพียงไม่กี่รายที่สามารถให้บริการ VoIP ได้อย่างครบวงจร”

นอร์เทลได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำในการพัฒนาและวางเครือข่ายการสื่อสารแบบมัลติมีเดีย และ VoIP แห่งยุคอนาคต เพื่อรองรับการทำงานของเครือข่ายการสื่อสารระดับองค์กรที่ใช้สายเคเบิล คู่สายโทรศัพท์ และแบบไร้สาย ปัจจุบัน นอร์เทลให้บริการระบบการสื่อสารแบบมัลติมีเดียและ VoIP แก่ผู้ให้บริการสื่อสารและองค์กรธุรกิจชั้นนำระดับโลกหลายราย ได้แก่ เวริซอน, สปริ้นท์, เอ็มซีโอ, แอร์ลังเกอร์ เฮลท์แคร์, บริติช เทเลคอม, เมืองซันโจเซ่, เคเบิล แอนด์ ไวร์เลส, เมืองริชาร์ดสัน, เบลล์ แคนาดา, โรเจอร์ส คอมมิวนิเคชั่นส์, แซคส์เทล, เตลุส, ฮ่องกง บรอดแบนด์ และกอมเปล เตลในฝรั่งเศส

นอกจากนี้ นอร์เทลยังดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพของระบบ IMS ร่วมกับผู้ให้บริการ การสื่อสารชั้นนำในตลาดโลกทั้งระบบโทรศัพท์แบบใช้สาย ระบบการสื่อสารแบบคู่สายเคเบิลระบบซีดีเอ็มเอ และระบบ GSM/UMTS รวมทั้งร่วมประเมินผลสมรรถนะการทำงานของระบบ IMS ของนอร์เทลในห้องปฏิบัติการ
ของเวริซอน เพื่อทดสอบศักยภาพในการทำงานร่วมกับระบบการทำงานของผู้ให้บริการรายอื่นๆ
และการสนับสนุนบริการสื่อสารบนเครือข่าย FTTP ได้อย่างราบรื่น